คู่ควรหรือไม่ เซร์คิโอ อเกวโร่ หัวหอก แมนฯ ซิตี้ เจาะจง ส่วนตัวแล้วต้องการที่จะให้เบอร์ 10 ของตัวเองเป็นของ ฟิล โฟเด้น

คู่ควรหรือไม่ โดยคิดว่า เควิน เดอ บรอยน์ อาจไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงเบอร์ที่ใส่อยู่ตอนนี้อยู่แล้วเซร์คิโอ อเกวโร่ แผงหน้าคนที่ใครๆก็รู้จักของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ชมรมยักษ์ใหญ่ที่เวที อังกฤษ กล่าวมาว่าต้องการให้ ฟิล โฟเด้น มิดฟิลด์ดาวรุ่งได้รับตกทอดเสื้อเบอร์ 10 ของตัวเอง

มีการตกลงใจไปแล้วว่า อเกวโร่ จะไม่ต่อสัญญาและก็กล่าวลา แมนฯ ซิตี้ แบบไม่มีคุณค่าตัวข้างหลังจบฤดูกาลนี้ โดยเช้าใจกันว่าเขาจะย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แต่ว่ามันก็ทำให้มีบางบุคคลตั้งปัญหาเพราะคนไหนจะได้ใส่เสื้อเบอร์ 10 ต่อจากเขา ภายหลังเบอร์ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนับว่าเป็นเบอร์หลักของกลุ่มบอลดูเหมือนจะทุกกลุ่มทั่วทั้งโลก OhoZaa

“ผมมีความรู้สึกว่าเสื้อเบอร์ 10 น่าจะถูกมอบให้ ฟิล โฟเด้น บางบุคคลกล่าวว่า เควิน (เดอ บรอยน์) ควรได้รับเบอร์นั้น แต่ว่าผมมั่นใจว่าก่อนหน้าที่ผ่านมา เควิน ก็ใส่เสื้อเบอร์เดียวกับที่เขาใส่อยู่ขณะนี้แบบเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ผมเลยไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงมันหรอก โน่นเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ฟิล โฟเด้น น่าจะได้เบอร์นั้นไปครอบครอง” ตัวรุกชาวอาร์เจนไตน์ เจาะจง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ค. ก่อนหน้าที่ผ่านมา เป็นวันที่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีอีกทั้ง 2 อารมณ์ อย่างหนึ่งเป็นความดีใจที่ได้เห็นทีมรักได้ยกถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดู 2020-21 ส่วนอีกแบบเป็นอารมณ์บูดหัวใจหน่อยเดียวเพราะว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้ลงเล่นเกมลีกให้กลุ่มเป็นนัดหมายท้ายที่สุด คราวหลังเจ้าตัวมิได้ต่อสัญญากับกลุ่ม

คู่ควรหรือไม่

ตั้งแต่แมื่อที่ อเกวโร่ ย้ายจาก แอตเลติโก มาดรด มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อตอนซัมเมอร์ ปี 2011

เขาทำแต้มให้กลุ่มได้อย่างมากจนได้รับการเทิดทูนว่าเป็นเลิศในแผงหน้าที่เก่งที่สุดของ พรีเมียร์ลีก โดยผลงานจากเกมเมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมาก็ทำให้เขาเป็นนักฟุตบอลที่ยิงได้มากที่สุดตลอดกาลของ  ถ้าเกิดนับเฉพาะการเล่นให้กลุ่มๆเดียวด้วย ที่ปริมาณ 184 ประตู

ดังนี้ เพื่อเป็นการยกย่องความยอดเยี่ยมของ วันนี้พวกเราเลยจะมาทดลองย้อนมองผลงานที่น่าดึงดูดของเขากับการเล่นใน ให้กับ แมนฯ กัน โดยข้อมูลเล็กน้อยเอามาจากเว็บอย่างเป็นทางการของ เองเลยด้วย https://ohozaa.com

คู่ควรหรือไม่

อย่างที่บอกไปว่า อเกวโร่ ล่ำลา แมนฯ ซิตี้ ไปพร้อมทั้งการเปลี่ยนเป็นผู้ครอบครองสถิติใหม่ในด้านแนวทางการทำประตูให้กลุ่มๆเดียวได้มากที่สุดชั่วกัลปวสานของ พรีเมียร์ลีก ซึ่งมันไม่น่าฉงนใจเลยที่เขาจะยิงได้เยอะแยะขนาดนั้น เนื่องจากว่าเจ้าตัวมีเปอร์เซ็นต์การยิงตรงกรอบตลอดการเล่นใน พรีเมียร์ลีก ที่สูงถึง 42 เปอร์เซ็นต์ร่วมกัน หรือก็คือเกือบจะครึ่งเดียวจากการยิงทั้งหมดทั้งปวง

เปอร์เซ็นต์ดังที่กล่าวมาข้างต้นใกล้เคียงกับ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้า สเปอร์ส ด้วย ภายหลังจนกระทั่งเวลานี้ เคน มีเปอร์เซ็นต์ยิงตรงกรอบในเกมระดับ ตลอดอาชีพการเล่นที่ 44 เปอร์เซ็นต์ โดยถ้านับเป็นปริมาณดิบแล้วนั้น ยิงตรงกรอบได้ 423 ครั้ง จากจังหวะลุ้นทำคะแนนทั้งปวง1,015 ที

คู่ควรหรือไม่ ยิ่งกว่านั้น ค่าถัวเฉลี่ยปริมาณประตูต่อ 1 เกมของเขาก็สูงมากมายที่ระดับ 0.67 ลูกต่อเกม แล้วก็เป็นอีกรอบที่มันก็อยู่ในระดับไล่เลี่ยกันผู้ครอบครองรางวัลดาวซัลโวสูงสุดของ ฤดูปัจจุบัน ภายหลังที่ค่าถัวเฉลี่ยกระบวนการทำประตูของ เคน อยู่ที่นัดหมายละ 0.68 ประตู

หนึ่งในสิ่งที่จำเป็นของการยอดเยี่ยมศูนย์หน้าเป็นแนวทางการทำประตูได้เยอะแยะแม้กระทั่งจะได้อยู่ในสนามไม่นานเท่าไร และก็หากแม้ฤดูกาลที่  ทำคะแนนใน ได้มากที่สุดจะเป็นฤดูกาล 2014-15 ที่เขากดไป 26 ลูก แต่ว่าในฤดูกาลนั้นเขามีค่าเฉลี่ยการใช้เวลาไป 98 นาทีต่อวิธีการทำ 1 ลูก

ผลงานดังที่กล่าวมาแล้วเทียบไม่ได้กับฤดูกาล 2013-14 เพราะว่าถีงถึงแม้ฤดูนั้นเขาจะกดประตูในลีกไป 17 ประตู แต่ว่าถ้าหากเปรียบเทียบเป็นค่าถัวเฉลี่ยแล้วล่ะก็ เขาก็ใช้เวลาไป 90 นาทีต่อวิธีการทำได้ 1 ลูก โดยชั้น 2 เป็นฤดู 2019-20 หรือก็คือฤดูกาลที่แล้วที่เขาทำเป็น 1 ประตูต่อทุกๆ91 นาที

นอกเหนือจากที่จะทำคะแนนได้สะดุดตาแล้วนั้นก็ยังเคยเป็นจอมปั้นเกมที่ดีคนหนึ่ง โดยตลอดตอนที่อยู่กับ เขาเคยทำแอสซิสต์ใน พรีเมียร์ลีก ต่อ 1 ฤดูได้มากที่สุดที่ปริมาณ 8 แอสซิสต์ และเคยทำแบบนั้นได้ถึง 3 ฤดู มีฤดูกาล 2014-15, ฤดู 2018-19 และก็ฤดูกาล 2011-12

คู่ควรหรือไม่ ดังนี้ ถ้าเกิดจะมองเฉพาะเปอร์เซ็นต์ การส่งบอล แล้วล่ะก็ ฤดูกาลที่เขาทำเป็นเหมาะสมที่สุดก็คือฤดู 2011-12 ที่ผ่านบอล ตรงเป้าได้ถึง 86.5 เปอร์เซ็นต์ โดยโน่นยังเป็นฤดูที่เขามีค่าเฉลี่ยการจ่ายบอลที่เป็นจังหวะสำคัญมากที่สุด กับการเล่นใน พรีเมียร์ลีก ด้วย ที่ปริมาณ 1.7 ครั้งต่อนัดหมาย

ในที่สุดแล้วผลงาน การจ่ายบอล อันเยี่ยมอย่างงั้น ก็มีส่วนช่วยให้ เข้าป้ายเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ฤดูแรกที่ มาอยู่กับกลุ่มได้ รวมทั้งโน่นก็เป็นราวกับจุดกำเนิดของความใหญ่โตของ ซิตี้ ไปด้วย