ติดทีมยอดเยี่ยม ตัวเลือกมากมายให้ติดเข้ามาในทีมดีเยี่ยมที่สุด พรีเมียร์ลีก แล้วก็ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทั้งยังจากผู้เล่น เชลซี กับ ลิเวอร์พูล

ติดทีมยอดเยี่ยม เป็นสัปดาห์ที่มีตัวเลือกมากมายให้ติดเข้ามาในทีมดีเยี่ยมที่สุด พรีเมียร์ลีก แล้วก็ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทั้งยังจากผู้เล่นเชลซี กับลิเวอร์พูล ทำให้มีหน้าแข้งจากสองทีมนี้ติดเข้ามารวมกันถึง 8 ราย ส่วนอีก 3 คนเป็นคนใดกันแน่กันบ้าง ไปดูกันได้เลย

ผู้เฝ้าประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์ ลิเวอร์พูลเซฟช่วยทีมได้สามครั้ง และก็ยังผ่านบอลด้วยเท้าแน่ๆมากมายๆในรอบ 10 เกมลีกหลังสุด อลีสซง เก็บคลีนชีตได้ถึง 7 นัดหมาย ปราการหลัง : เบน ชิลเวลล์ (เชลซี) หวนยึดตัวจริงตรงพื้นที่ตัวบุกปีกซ้าย “สิงห์บลูส์”

ในเกมลีก 3 ครั้งติดต่อกัน ไม่น่าเชื่อว่าทุกนัดหมายดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเจ้าตัวจะเบิกสกอร์ได้ทั้งปวง ซึ่งถ้าย้อนไปก่อนหน้าที่ผ่านมาเมื่อนัดหมายในที่สุดของฤดูกาลก่อน เท่ากับว่า ชิลเวลล์ ยิงในลีกมาแล้ว 4 เกมต่อเนื่องกัน

แผงหลัง : อิบราฮิม่า โกนาเต้ ลิเวอร์พูลได้รับจังหวะแบบเซอร์ไพรส์ รวมทั้งผลที่ออกมาก็ไม่ทำให้ใครๆผิดหวัง อาศัยความเร็ว กับความใหญ่เบียดบังกดไม่ให้แนวรุก แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นบอลได้ง่าย จากเกมนี้ “อิบู” จัดการบอลได้ถึง 8 ครั้งเยอะที่สุดในสนาม

ติดทีมยอดเยี่ยม กองหลัง : รีซ เจมส์ เชลซีได้โอกาสกลับคืนตัวจริงอีกครั้ง แทนที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และมีชื่อทำสกอร์ได้ในเกมนี้จากจังหวะเติมเกมสูงแล้วซัดด้วยขวาเน้น ๆ เจมส์ มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง 4 ประตูจากการออกสตาร์ทตัวจริง 4 เกมลีกหลังสุด วิเคราะห์บอล

ติดทีมยอดเยี่ยม

อลีสซง เก็บคลีนชีตได้ถึง7นัดหมาย

ติดทีมยอดเยี่ยม ( 2 ประตู 2 แอสซิสต์) ทั้งที่ 2 ฤดูกาลแรกในลีก เขายิงได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น กองหลัง : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลิเวอร์พูลไม่ได้เจองานหนักมากในการรับมือ มาร์คัส แรชฟอร์ด อีกทั้งยังเติมเกมบุกจนสามารถปาดบอลให้ ดิโอโก้ โชต้า ทำประตูที่สอง

และยังเกือบมีสกอร์จากลูกยิงไกล แต่ถูก ดาบิด เด เคอา บินเซฟไว้ได้ กองกลาง : เมสัน เมาท์ (เชลซี) กลายเป็นพระเอกประจำนัดที่ เชลซีถล่ม นอริช แบบขาดลอย 7-0 โดยแข้งดีกรีทีมชาติอังกฤษ มาซัดแฮตทริกได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

อีกทั้งยังมีชื่อแอสซิสต์ให้แก่ รีซ เจมส์ เมาท์ กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 20 ของ เชลซีที่ทำแฮตทริกได้ในศึก พรีเมียร์ลีก โดยมีแค่ อาร์เซน่อล ทีมเดียวเท่านั้นที่ผู้เล่นทำแฮตทริกได้มากหน้าหลายตาที่สุด (21 คน) กองกลาง : เอมิล สมิธ-โรว์ (อาร์เซน่อล)

เล่นได้อย่างโดดเด่น มีชื่อทั้งทำประตูและแอสซิสต์ โดยเป็นครั้งที่สองแล้วที่เจ้าตัวทำทั้งสองอย่างในเกมเดียวกัน ต่อจากเกมเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 3-1 กองกลาง : นาบี้ เกอิต้า ลิเวอร์พูลเบิกสกอร์แรกให้กับลิเวอร์พูล

ไม่เพียงเท่านั้นแข้งทีมชาติกินี ยังเป็นตัวเคลื่อนบอลจนได้ประตูที่สอง และยังแอสซิสต์ให้ โม ซาลาห์ ในประตูที่สาม น่าเสียดายที่เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บจากจังหวะเข้าปะทะกับ ปอล ป็อกบา จนต้องถูกหามออกจากสนาม นับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2019

ที่เจอกับ บอร์นมัธ นี่คือครั้งแรกที่ เกอิต้า ทำประตูกับแอสซิสต์ได้ในเกมเดียวกัน กองหน้า : ฟิล โฟเด้น (แมนฯ ซิตี้) ในเกมที่ต้องรับบทกองหน้า ผลที่ออกมาคือทำได้ดีสุด ๆ โฟเด้น มีสกอร์ฝากแฟน ๆ 2 ตุงพ่วงด้วยแอสซิสต์ช่วงท้ายเกมอีกหนึ่งครั้ง

ดาวโรจน์วัย 21 ปีมีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง 3 ลูกในเกมลีกเกมเดียวเป็นครั้งแรก ( 2 ประตู 1 แอสซิสต์) กองหน้า : โจชัว คิง (วัตฟอร์ด) พระเอกของ “แตะอาละวาด” ที่กำราบ เอฟเวอร์ตัน คา กูดิสัน พาร์ค ซึ่งเป็นการสอยประตูทีมเก่าที่เจ้าตัวลงเล่นเมื่อปีก่อน

อดีตเด็กปั้น “ปีศาจแดง” กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 3 ของศึก พรีเมียร์ลีก ที่ทำแฮตทริกได้ใส่ทีมเก่าของตัวเอง โดยก่อนหน้านี้มี แอนดี้ โคล(อยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิง นิวคาสเซิ่ล) และ มาร์คัส เบนท์ (อยู่ วีแกน ยิง แบล็คเบิร์น) กองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)

เชลซีมี เมาท์ ที่ยิง 3 จ่าย 1 ลิเวอร์พูลก็มี ซาลาห์ ที่ยิง 3 จ่าย 1 เช่นกัน ดาวเตะหมายเลข 11 ระเบิดแฮตทริกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด พร้อมส่งให้ตัวเองเป็นนักเตะแอฟริกัน ที่ยิงประตูใน พรีเมียร์ลีก มากที่สุดแซงหน้า ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

ติดทีมยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ดาวยิงไอยคุปต์ ยังเป็นผู้เล่นคนแรกที่สามารถบุกมาทำแฮตทริกได้ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกมลีก นับตั้งแต่ที่ เดนนิส ไบลี่ย์ (ควีนส์พาร์ค) เคยทำไว้เมื่อเดือนมกราคม ปี 1992 เดเคอาหนึบ