เป้าหมายที่ต้องการ อับดุลฮาฟิส บือราเฮง นักบอลผู้เป็นแรงจูงใจให้เด็ก 3 จังหวัดชายแดนใต้ต้องการเล่นไทยลีก

เป้าหมายที่ต้องการ “เล่นบอลไทยลีก ลีกอันดับหนึ่งของไทย ยอดความสามารถมีล้นหลาม ลงแข่งขันเข้าแข่งขัน ไปสู่ฝันนิรันดร์” นี่เป็นท่อนหนึ่งในเพลง ต้องการไปบอลโลก ของ ดงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ที่อาจเป็นซาวด์แทร็กประจำชีวิตของหลาย ๆ คนมี เป้าหมายที่ต้องการ เป็นนักฟุตบอลอาชีพ

หากแม้ “ไทยลีก” ในปัจจุบันจะได้รับการผลักดัน จากภาครัฐและก็เอกชน จนถึงแปลงเป็นลีกอาชีพอย่างเต็มกำลัง แม้กระนั้นรูปทรงผู้เล่นที่มาจากพื้นที่ชายแดนภาคใต้กลับมีเพียงแค่น้อยนิด เมื่อกับความนิยมชมชอบหลงใหล บอลของเด็ก ๆ ในแคว้น

“อาแว-อับดุลฮาฟิส บือราโชคดี” นับว่าเป็นนักฟุตบอล เพียงแต่ไม่กี่ผู้ที่ไต่เต้าขึ้นมาจากชมรมแคว้นประจำ จังหวัดจังหวัดนราธิวาส ก้าวมาสู่การเป็นนักเตะอาชีพบนเวทีลีกสูงสุด กับกลุ่มชั้นแนวหน้าอย่าง “จังหวัดบุรีรัมย์,  พีทีคราว จังหวัดระยอง” รวมทั้ง “จังหวัดนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี”

และไม่เพียงเท่านั้น ก้าวที่ยิ่งใหญ่ของ ตัวรุกเมืองนรา ต้องการดำเนินรอยตามเขา คงจะไม่มีกีฬาจำพวกไหนที่สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและก็เป็นที่ชื่นชอบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้มากพอๆกับ “บอล” อีกแล้ว วิเคราะห์บอล

สร้างแรงดลใจรวมทั้งส่งต่อความปรารถนาให้เยาวชนแบบใหม่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เป้าหมายที่ต้องการ

ภาพของเด็กชายเท้าเปล่า หรือสวมรองเท้าเด็กนักเรียน วิ่งตามหวดลูกฟุตบอล  กันอย่างสนุก นับเป็นสิ่งที่ประสบพบเห็น ได้อย่างง่ายดายนัก ในพื้นที่ที่ผู้คนตกหลุมรักหลงใหลเกมลูกหนังมากมายขนาดนี้ “ผมเป็นผู้ที่รักบอลมาตั้งแต่เด็ก

เนื่องจากว่าหมู่บ้านผมถูกใจกีฬาบอล กันมากมาย ผมมิได้เติบโตมาจากอติดอยู่เดมีที่เป็นระบบ ทุกวี่วันข้างหลังเลิกเรียน ผมจะออกไปเตะบอลเท้าเปล่า มิได้สวมรองเท้าอะไร เตะกับเพื่อนพ้องๆแถวบ้าน”

หมู่บ้านบูเกะตา ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส นอกเหนือจาก มีภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเขตแดนประเทศมาเลเซียแล้ว ชุนชนที่นี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดความชื่นชม ในกีฬาลูกหนังของ “อาแว-อับดุลฮาฟิส บือราโชคดี”

อาแว เติบโตมาในสิ่งแวดล้อมของหมู่บ้าน ที่นิยมเล่นบอลกันเป็นความรู้สึกนึกคิด เมื่อไรก็ตามที่มีทัวร์นาเมนต์บอลสมัครเล่นในชุมชนแล้วก็พื้นที่ละแวกใกล้เคียง ราษฎรทุกเพศทุกวัย จะแห่กันไปดูเกมการประลองกันอย่างแออัด

รวมถึง “หมู่บ้านบูเกะตา” ที่เป็นต้นกำเนิดบรรดานั กฟุตบอลสมัครเล่นฝีเท้าดี มิได้น้อยหน้าผู้ใดกันแน่ ในจังหวัดนราธิวาส เนื่องจากกลุ่มผู้แทนชุมชน มักคว้าโควตา เป็นผู้แทนจังหวัดไปแข่งขัน ในระดับภูมิภาคได้หลายครั้ง “หมู่บ้านผมค่อนข้างจะเป็นที่รู้จัก ด้านบอลในจังหวัดนราธิวาส ได้เป็นผู้แทนอำเภอ ผู้แทนจังหวัด ไปแข่งขันรายการต่าง ๆ ครับ”

“ช่วงแรกผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับบอลไทย ไม่เคยติดตามมอง เป้าหมายที่ต้องการ เพียงแค่เล่นบอลเพราะว่าถูกใจ เล่นด้วยความเพลิดเพลินตามประสาเด็กๆในต่างจังหวัด มารู้ตัวอีกผมก็ได้เข้าไปอยู่กับชมรม แล้วตอนอายุ 16 ปี” เกมแรกสัปดาห์

ผลพวงจากการฝึกฝนบอลวันแล้ววันเล่าข้างในหมู่บ้าน รวมทั้งการเตะเล่นกับสหายในเวลาเย็นของทุกวี่วัน เป้าหมายที่ต้องการ

ทำให้ “อับดุลฮาฟิส” เริ่มฉายแววความชำนาญออกมาให้บุคคลภายนอกได้มองเห็น หนึ่งในนั้นเป็น “แบอ๊อด” พิทยา สวรรค์แมน อดีตกาลกุนซือสโมสร นรา ยูไนเต็ด กลุ่มลูกหนังอาชีพประจำจังหวัดจังหวัดนราธิวาส

ที่แลเห็นความสามารถในตัวของ อับดุลฮาฟิส บือราโชคดี ตั้งแต่เขาเรียนอยู่ชั้น มัธยม2 “กางอ๊อดเขาอยากได้ตัวผมไปเล่นให้ นรา ยูไนเต็ด ตั้งแต่ผมอายุ 14 ปี แต่ว่าในขณะนั้นมีความคิดว่าตนเองเด็กเหลือเกิน ต้องการจุดโฟกัสหัวข้อการเรียนก่อน”

“จนถึงผมอายุ 16 ปี ก็ได้มาเป็นนักฟุตบอลเยาวชนของกลุ่มนรายูไนเต็ด ลงแข่งขันตามรายการต่างๆในรุ่นอายุ ยู-17 และก็ ยู-18 ก็ติดกลุ่มมาเรื่อย

แม้กระนั้นผมมิได้ไปรับประทานอยู่ประจำเป็นเด็กในอติดอยู่เดมี เมื่อใดที่มีรายการแข่งขัน ผมถึงค่อยเข้าไปเก็บเนื้อเก็บตัวกับกลุ่ม” การได้เข้ามาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในสมาคม หากแม้เป็นเพียงแต่นักฟุตบอลเยาวชน ของกลุ่ม เป้าหมายที่ต้องการ แม้กระนั้นมันกลับสร้าง แรงผลักดันและก็เป็นตัวกระตุ้นให้ อับดุลฮาฟิส ต้องการปรับปรุงฝีเท้า เพื่อก้าวไปติดกลุ่มชุดใหญ่  ให้ได้

สุดท้ายความฝันของ “อาแว” ก็เป็นจริง เมื่อชมรมนรา ยูไนเต็ด ตกลงใจเซ็นสัญญาอาชีพกับ อับดุลฮาฟิส บือราโชคดี ในช่วงฤดูกาล 2015 เขาลงในสนาม ช่วยกลุ่มถิ่นกำเนิด ลงฟาดลำแข้งใ นลีกอาชีพระดับ 3 (ดิวิชั่น 2 เดิม) และก็ภายหลังจากโชว์ฝีเท้า กับสังกัดเดิมไปเพียงแค่ 1 ปีครึ่ง จุดเปลี่ยนแปลงครั้ง สำคัญของชีวิต อับดุลฮาฟิส ก็มาถึง

เนื่องจากสมาคมยักษ์ใหญ่อย่าง “ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด” ได้ส่งแมวมองมาส่องฟอร์มการเล่นของเขา ก่อนยื่นข้อเสนอทาบทามตัวรุกชายหนุ่มชาวจังหวัดนราธิวาสคนนี้ ไปร่วมกลุ่มในตอนเลก 2 ฤดู 2016 “ตระหนกตกใจมากมายครับผม ไม่คิดว่าจะได้ก้าวกระโจนไปอยู่กลุ่มใหญ่อย่าง จังหวัดบุรีรัมย์ ตื่นเต้นมากมายครับผม มันเป็นเสมือนความฝันเลย”