เลสเตอร์ช็อก เลสเตอร์จะคว้าสามแต้มอยู่แล้วแต่มาโดน เบิร์กไวน์ ตัวสำรองที่รับบทซูเปอร์ซับยิงช่วงทดเจ็บ

เลสเตอร์ช็อก เลสเตอร์จะคว้าสามแต้มอยู่แล้วแต่มาโดน เบิร์กไวน์ตัวสำรองที่รับบทซูเปอร์ซับยิงช่วงทดเจ็บถึงสองเม็ดพาสเปอร์ส แซงคว้าชัย 3-2 ได้แบบเหลือเชื่อพร้อมแซงอาร์เซน่อล ขึ้นไปรั้งอันดับ 5

ส่วน “จิ้งจอกสยาม” ชวดคว้าชัยแบบสุดช็อกยึดที่ 10 ของตารางเหมือนเดิม ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าบ้าน เลสเตอร์ซิตี้ อันดับ 10 เปิดสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ สเปอร์สอันดับ 6

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส บอสใหญ่ของ “จิ้งจอกสยาม” ยังประสบปัญหากับตัวผู้เล่นที่ติดโควิด, บาดเจ็บ และเดินทางไปเล่นแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ เกมนี้ได้ แพทสัน ดาก้า มาล่าตาข่ายคู่กับ อเดโมล่า ลุคแมน โดยมีเพลย์เมกเกอร์อย่าง เจมส์ แมดดิสัน ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง

ส่วน “ไก่เดือยทอง” ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ยังไม่มี ซน ฮึง-มิน ที่ยังเจ็บ แนวรุกให้ แฮร์รี่ เคน จับคู่กับ ลูคัส มูร่า และให้ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ เป็นหัวใจในแดนกลางเชื่อมเกมร่วมกับ แฮร์รี่ วิงค์ส และโอลิเวอร์ สคิปป์

เปิดฉากครึ่งแรกมาได้แค่ 9นาที สเปอร์สเกือบบุกมานำเจ้าถิ่นหลัง เคน เลี้ยงแหวกเข้าไปซัดเลียดบอลพุ่งกำลังจะเสียบเสาไกลแต่ ลุค โธมัส แบ็กจิ้งจอกสยามวิ่งมาเคลียร์บอลออกไปหวุดหวิด อีกสองนาทีถัดมา เรกีล่อน เรียกฟรีคิกระยะอันตรายเยื้องทางซ้าย

ก่อนจะเป็น แฮร์รี่ เคน ที่วิ่งมาปั่นบอลไปติดกำแพง ทัพไก่ยังพับสนามบุกใส่อย่างหนัก นาที18 เจ้าบ้านรอดเสียประตูอีกหนหลัง วิงค์ส เปิดคอนเนอร์มาให้ เคน หนีตัวประกบเทกตัวโขกไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

นาที22 ลูคัส มูร่า ลากหนีแนวรับเจ้าถิ่นก่อนตะบันด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งไปติดเซฟของ ชไมเคิ่ล จากนั้นไม่ถึงนาที เรกีล่อน เปิดด้วยซ้ายมาเสาไกลถึง ดาวินซอน ซานเชซ ตั้งหัวโขกแต่บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย

กระนั้น นาที24 แฟนจิ้งจอกสยามเฮกันลั่น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม หลังนานๆได้บุกขึ้นมาที แต่มาได้ประตูขึ้นนำไก่เดือยทอง 1-0 จากจังหวะที่ ดาก้า เล่นกับลุคแมน ก่อนที่ เรกีล่อน จะสกัดไม่ดีไปเข้าทาง ดาก้า พุ่งมาซัดตูมเดียวส่งบอลเสียบเสาไกล

นาที34 สกอร์ของเจ้าถิ่นเกือบได้เม็ดที่สองนำห่าง ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ไหลเข้ากลางให้ เจมส์ แมดดิสัน ปั่นด้วยขวาบอลพุ่งเกือบเบียดเสาแต่ อุโก้ ยอริส ยังเหนียวปัดปลายมือออกไปหวุดหวิด อีกสองนาทีต่อมา สเปอร์สน่าได้ประตูตีเสมอหลัง

แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ออกมาตัดบอล ก่อนไปเข้าทาง ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ ซัดเต็มแรงบอลพุ่งกำลังจะข้ามเส้นประตูไปแล้วแต่ มาร์ค อัลไบรท์ตัน ยังเป็นตัวสุดท้ายที่สกัดออกไปอย่างเหลือเชื่อ กระนั้น นาที38 สเปอร์สมาไล่ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ

เลสเตอร์ช็อก จากจังหวะที่ วิงค์ส ได้บอลได้กลางสนามแล้วจ่ายขึ้นหน้าให้ แฮร์รี่ เคน หลุดกับดักล้ำหน้าควบบอลเข้าไปก่อนล็อคหนี โซยุนชู แล้วซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งชนโคนเสาไกลเข้าไป วิเคราะห์บอล

เลสเตอร์ช็อก

จบครึ่งแรก เลสเตอร์ เสมอกับ สเปอร์ส 1-1

เลสเตอร์ช็อก ครึ่งหลัง คอนเต้ เปลี่ยนเอา แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ลงมาเล่นแทน เอเมอร์สัน รอยัล ส่วนเจ้าบ้าน นาที53 ถอดเอา ลุค โธมัส ออก แล้วส่ง เจมส์ จัสติน หลังเพิ่งสลัดอาการเจ็บลงสนามในรอบ 11 เดือน

นาที58 เลสเตอร์เกือบได้ลุ้นขึ้นนำอีกครั้งหลัง ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ดึงแนวรับก่อนไหลนิ่มให้ เจมส์ แมดดิสัน วิ่งมาอัดเต็มเท้าบอลพุ่งไปติดเซฟ อูโก้ โยริส บอลยังสู้กันสนุก คราวนี้ นาที68 สเปอร์สสวนกลับขึ้นมา บอลมาถึง เรกีลอน ล็อคหนีเข้ากลาง

ตีเลอมันส์ พุ่งมาพยายามเคลียร์แต่ดันลื่นก่อนที่ เรกีล่อน จะหวดด้วยขวาข้างไม่ถนัด บอลเบาไปเข้ามือ ชไมเคิ่ล นาที76 แฟนเลสเตอร์ได้เฮอีกหน หลังเจ้าบ้านพลิกขึ้นนำ สเปอร์ส2-1 จังหวะที่ ตีเลอมันส์

จ่ายยัดให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาไขว้จ่ายให้ แมดดิสัน หลุดเข้าไปก่อนล้มตัวยิงบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย เกมทำท่าว่าเจ้าถิ่นจะเก็บสามแต้มได้แล้ว ทว่าช่วงทดเจ็บ นาที90+5 สเปอร์สมาไล่ตีเสมอ 2-2

จากจังหวะที่ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ ตักตัดหลังแนวรับเจ้าถิ่นให้ โดเฮอร์ตี้ สอดมาในกรอบพักอกบอลเลยมาเข้าทาง สตีเฟน เบิร์กไวจ์นซัดเข้าไปกลางประตู ก่อนในช่วงทดเวลาเจ็บ นาที90+7 ลูกทีมของคอนเต้จะทำแฟนเจ้าบ้านช็อกตาค้าง

เมื่อเบิร์กไวจ์น หลุดเดี่ยวเข้าไปแตะบอลหลบ ชไมเคิ่ล ก่อนซัดเลียดเบียดเสาไกลเข้าไปพร้อมพา สเปอร์สพลิกแซงเอาชนะ 3-2 ได้แบบเหลือเชื่อ ขยับขึ้นรั้งอันดับ 5 แทนที่ อาร์เซน่อล โดยมี 36 คะแนน แถมมีเกมในมืออีกหนึ่งนัด ส่วน จิ้งจอกสยามอยู่ที่ 10 เหมือนเดิมมี 25 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เลสเตอร์ซิตี้ (4-3-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ชากลาร์ โซยุนชู, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ลุค โธมัส (เจมส์ จัสติน น.53) – ยูริ ตีเลอมันส์ , ฮัมซ่า เชาฮ์ดรี้, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ (บูบาการี่ ซูมาเร่ น.75) – เจมส์ แมดดิสัน – แพทสัน ดาก้า (ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ น.75), อเดโมล่า ลุคแมน

เลสเตอร์ช็อก สเปอร์ส (3-5-2) : อูโก้ โยริส – จาเฟ็ต แทนกันก้า, เดวินซอน ซานเชซ, เบน เดวิส – เอเมอร์สัน รอยัล (แมตต์ โดเฮอร์ตี้ น.46), โอลิเวอร์ สคิปป์, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์, แฮร์รี่ วิงค์ส (โจวานนี่ โล เซลโซ่ น.74), เซร์คิโอ เรกีลอน (สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น น.79) – แฮร์รี่ เคน, ลูคัส มูร่า ขัดตาทัพ