คืนฟอร์มเก่ง ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ แมตช์เดย์ที่ 2 ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของผู้เล่นเวสต์แฮม

คืนฟอร์มเก่ง ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ แมตช์เดย์ที่ 2 ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของผู้เล่นเวสต์แฮม ทำให้มีแข้ง “เดอะ แฮมเมอร์ส” ติดเข้ามา 2 ราย เช่นเดียวกับ ไบรท์ตัน ที่ทำผลงานได้ดีในบ้านตัวเอง ส่วน โรเมลู ลูกากู ก็ประเดิมติดทีมนี้จากผลงานลงสนามเกมแรก

ผู้รักษาประตู : ดาบิด ราย่า (เบรนท์ฟอร์ด) บินเซฟลูกยิงของ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่จังหวะนั้นควรจะเป็นประตูของ คริสตัล พาเลซ ไปแล้ว นายด่านชาวสแปนิช วัย 25 ปี มีส่วนสำคัญที่พา เบรนท์ฟอร์ด เก็บคลีนชีตได้ทั้งสองนัดแรก ในศึกพรีเมียร์ลีก

โดยตลอด 10 เกมหลังสุด ราย่า เก็บไม่เสียประตูถึง 8 นัด(รวมเกม เพลย์ออฟ เลื่อนชั้น) กองหลัง : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล) จริง ๆ แล้วตำแหน่งนี้อีกหนึ่งตัวเลือกที่โดดเด่นคือ ติโน่ ลีฟราเมนโต้ แบ็กขวาวัย 18ปี

จาก เซาธ์แฮมป์ตัน ทว่าสิ่งที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำได้ดีกว่าคือจังหวะสุดท้าย ซึ่งแข้งจาก “หงส์แดง” ผ่านบอลอย่างสวยงามให้ ซาดิโอ มาเน่ ทำประตู เทรนท์ จัดแอสซิสต์ให้กับ มาเน่ ในศึก พรีเมียร์ลีก ไปแล้วถึง 9ครั้ง มากกว่าคนอื่น ๆ 4 ครั้งที่เจ้าตัวถวายพานให้เพื่อนในทีมทำประตู

กองหลัง : เชน ดัฟฟี่ (ไบรท์ตัน) กลับมามีบทบาทสำคัญให้กับ ไบรท์ตัน อีกครั้ง หลังถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่ เซลติก เมื่อซีซั่นก่อน ดัฟฟี่ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้งสองเกม และมานัดนี้เจ้าตัวก็โขกประตูให้ทีมขึ้นนำ วัตฟอร์ด จากจังหวะลูกเตะมุม

ซึ่งที่สำคัญเกมนี้ ไบรท์ตัน เก็บ 3 แต้มพร้อมรักษาคลีนชีตได้สำเร็จ เมื่อนับเฉพาะผู้เล่นตำแหน่งกองหลัง นับตั้งแต่ฤดูกาล 2018/19 เป็นต้นมา มีแค่ ลูอิส ดังค์(10) และ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์(10) เท่านั้น ที่ทำประตูได้มากกว่า ดัฟฟี่ โดยเขาทำได้ 7 ประตูด้วยกัน

กองหลัง : ไทโรน มิงส์ (แอสตัน วิลล่า) แม้เสียเชิงให้กับ คัลลั่ม วิลสัน จนทีมเกือบโดนขึ้นนำ แต่หลังจากนั้น มิงส์ ก็ค่อย ๆ เล่นดีขึ้น และสุดท้ายก็มีส่วนร่วมกับทั้งสองประตูที่ แอสตัน วิลล่า ทำได้

คืนฟอร์มเก่ง โดยลูกแรกเขาเป็นคนโขกชงต่อให้ แดนนี่ อิงส์ วอลเล่ย์สุดสวย และอีกลูกที่พยายามโหม่งบอลแล้วไปติดแขน จามาล ลาสเซลลส์ นอกจากนี้ เรื่องเกมรับ มิงส์ ยังทำได้ดี โดยเฉพาะการเคลียร์บอลที่ทำได้ 5ครั้ง พร้อมกับเข้าปะทะและตัดบอลได้อีกอย่างละ 1ครั้ง วิเคราะห์บอล

คืนฟอร์มเก่ง

ทำให้มีแข้ง “เดอะ แฮมเมอร์ส” ติดเข้ามา 2 ราย เช่นเดียวกับ ไบรท์ตัน ที่ทำผลงานได้ดีในบ้านตัวเอง

คืนฟอร์มเก่ง กองหลัง : รีซ เจมส์ (เชลซี) โดดเด่นสุด ๆ ในศึก ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ โดย รีซ เจมส์ ถวายพานให้ โรเมลู ลูกากู เบิกสกอร์แรกให้ทีมขึ้นนำ ก่อนที่จะสังหารประตูอย่างเฉียบขาดปิดกล่อง 2-0 ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ซูเปอร์ซับ

เจมส์ เป็นแข้ง เชลซี คนแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2012 ที่ ฆวน มาต้า ทำประตูและแอสซิสต์ใส่ อาร์เซน่อลได้ กองกลาง : ซาอิด เบนราห์มา (เวสต์แฮม) กลายเป็นผู้ที่รับหน้าที่ทำเกมรุกในบทบาทของ เจสซี่ย์ ลินการ์ด

และนี่เป็นอีกครั้งที่อดีตแข้ง เบรท์ฟอร์ด ทำประตูและแอสซิสต์ได้ในเกมเดียวกัน หลังจากเกมนัดเปิดสนามก็ทำได้ กองกลาง : อีฟส์ บิสซูม่า (ไบรท์ตัน) ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในแบบฉบับของตัวเอง ดาวเตะทีมชาติมาลี โดดเด่นสุด ๆ

โดยปะทะบอลสำเร็จกับตัดบอลได้ถึงอย่างละ 5ครั้ง กองกลาง : เดเล่ อัลลี (สเปอร์ส) ภายใต้การคุมทัพของ นูโน่ เอสปิลิโต้ ซานโต้ ทำให้ เดเล่ อัลลี อดีตดาวจรัสแสงแห่งเมืองผู้ดีได้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง

และรับหน้าที่สังหารจุดโทษได้อย่างมั่นใจพา สเปอร์ส เก็บชัยที่ โมลินิวซ์ กราวด์ ได้สำเร็จ กองหน้า : กาเบรียล เชซุส (แมนฯ ซิตี้) กลายเป็นว่าไม่ได้ลงเล่นในตำแหน่งที่แท้จริงของตัวเอง โดยแข้งแซมบ้า ถูกถ่างไปทางริมเส้นฝั่งขวา

แต่นั่นก็ทำให้เขาโดดเด่น และมีส่วนร่วมกับสองประตู คืนฟอร์มเก่ง ถึงแม้จะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดก็ตาม นี่เพิ่งเป็นครั้งที่ 2 เท่านั้นที่ เชซุส ทำสองแอสซิสต์ได้ในเกมเดียวในศึก พรีเมียร์ลีก โดยหนก่อนทำได้กับ ไบรท์ตัน เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2020

กองหน้า : โรเมลู ลูกากู (เชลซี) เล่นเข้ากับเพื่อนร่วมทีม เชลซี ได้อย่างรวดเร็ว โดยทุกครั้งที่ได้บอลมักสร้างปัญหาให้กับแนวรับ อาร์เซน่อล ได้เสมอ ประตูที่ทำได้เกิดจากสัญชาตญาณกองหน้าที่วิ่งมุ่งหน้าหาประตู และแตะบอลเข้าไปยิงได้อย่างง่าย ๆ

ถึงกระนั้นไฮไลท์มันอยู่ที่จังหวะที่เขาวิ่งชน ปาโบล มารี จนล้มลงไปกอง ลูกากู ทำประตูบนลีกสูงสุด อังกฤษ ไปแล้ว 114 ลูก ขึ้นไปติดท็อปดาวยิงอันดับที่ 20 ของ พรีเมียร์ลีก นอกจากนี้เจ้าตัวยังเป็นผู้เล่นต่างชาติที่ทำประตูได้ยามเล่นเกมเหย้า

และเกมเยือน อย่างละ 50 ประตูขึ้นไป กองหน้า : มิคาอิล อันโตนิโอ (เวสต์แฮม) กว่าจะมีชื่อเป็นผู้ทำประตูก็ต้องรอถึงนาทีที่ 80 ทว่าก่อนหน้านั้น มิคาอิล อันโตนิโอ ก็แอสซิสต์ให้ เบนราห์มา กระทุ้งประตูให้ทีมนำห่าง 2-0

คืนฟอร์มเก่ง ดาวยิงร่างบึ้กกลายเป็นนักเตะ เวสต์แฮม ที่ยิงประตูมากที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก(49 ประตู) แซงหน้า เปาโล ดิ คานิโอ ที่ทำไว้ 47 ประตู