ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เดอะ แฮมเมอร์สสะกดกับคำว่า แพ้ ไม่เป็นในการลงเล่น 22 นัด

ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ได้รับข่าวดีเมื่อ จอร์แดน พิคฟอร์ด,อัลลัน,อันเดรโกเมส
และโจชัวคิง เตรียมมีชื่อ กลับมาพร้อมลง สนามอีกครั้ง ทว่า โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน, เยอร์รี่ มีน่า, ฟาเบียน เดลฟ์,แบร์นาร์ดและ อับดูลาย ดูกูเร่ ต่างมีอยู่ในลิสต์อาการบาดเจ็บ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน

ตั้งเป้าที่จะเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไป-กลับในเวที พรีเมียร์ลีก ให้ได้เป็นครั้งแรก สุดสัปดาห์นี้ แม้จะมีโปรแกรม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ลงเตะ แต่ พรีเมียร์ลีก ก็ยังมีทำการแข่งขัน โดยเราได้คัดคู่ที่น่าสนใจมาให้แฟนๆ ได้ติดตามเอฟเวอร์ตัน-สเปอร์สการเจอกันของ เอฟเวอร์ตัน-สเปอร์ส 4 ครั้ง

หลังสุดในถิ่น กูดิสัน พาร์ค ทุกรายการ มีประตูเกิดขึ้นถึง 22 ลูก โดย 8 ประตูเป็นของเจ้าถิ่น และอีก 14 เป็นของฝั่ง “ไก่เดือยทอง” โดยเมื่อช่วงต้นปี 2021 “ทอฟฟี่เมน” เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 5-4 ในศึกเอฟเอ คัพ ในการเจอกัน 7 นัดหลังสุดในศึก พรีเมียร์ลีก

ปรากฏว่า สเปอร์ส ยังไม่แพ้ เอฟเวอร์ตัน โดยเป็นฝ่ายชนะ 3 ครั้ง และเสมอ 4 แฮร์รี่ เคน พังประตูใส่ เอฟเวอร์ตัน 10 ลูกจากการลงสนาม 11 นัดในทุกรายการ รวมถึงเขาเคยยิงประตูที่สนามแห่งนี้มาแล้ว 6 ลูกจากการลงเล่น 6 เกม นิวคาสเซิ่ล-เวสต์แฮมคัลลั่ม วิลสัน หัวหอก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ชื่นชอบการเจอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เป็นพิเศษ เพราะ “ขุนค้อน” คือทีมที่เขาทำประตูได้มากที่สุด โดยซัดไป 8 ประตูกับการลงเล่น 9 นัด โดยประตูแรกของเจ้าตัวกับ “สาลิกาดง” ก็เกิดขึ้นในการเจอกับ เวสต์แฮม “เดอะ แม็กพายส์” แพ้แค่ 2 ครั้งจาก 16 เกม

ในบ้านที่เจอกับ เวสต์แฮม เท่านั้น โดยชนะ 8 เสมออีก 6หาก เวสต์แฮม ทำประตูนำได้ 3-0 ในเกมนี้ จะทำให้พวกเขาเป็นทีมที่สองที่ขึ้นนำคู่แข่ง 3-0 4 นัดติดต่อกันใน พรีเมียร์ลีก ต่อจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยทำได้เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2010 และเดือนกันยายน ปี 2011

อย่างไรก็ตาม “เดอะ แฮมเมอร์ส” สะกดกับคำว่า แพ้ ไม่เป็นในการลงเล่น 22 นัดกับการเจอทีมกลุ่มล่างของตาราง นับตั้งแต่ เดวิด มอยส์ เข้ามาคุมบังเหียน (ชนะ 14 เสมอ 8) อาร์เซน่อล-ฟูแล่มทั้ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง และ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์

ต่างทำประตูใส่ ฟูแล่ม ได้ทั้ง 3 เกมที่เจอกัน โดย 2 คนนี้ยิงรวมกันไป 4 ประตูในแต่ละเกม ฟูแล่ม กำลังมองหาชัยชนะที่บ้านของ อาร์เซน่อล เป็นครั้งแรก หลังก่อนหน้านี้ 29 เกมไม่เคยบุกคว้าชัยได้เลย (เสมอ 5 แพ้ 24) อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กองหน้า ฟูแล่ม เป็นผู้เล่นที่ไม่สามารถเอาชนะในเกม ลอนดอน ดาร์บี้ ได้เลยสักครั้ง ซึ่งเป็นสถิติมากที่สุดด้วยจำนวน 16 นัด (เสมอ2 แพ้ 16)ในการเจอกับ ฟูแล่ม ของ อาร์เซน่อล 3 นัดหลังสุดบนเวที พรีเมียร์ลีก “ไอ้ปืนใหญ่” เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 5-1, 4-1 และ 3-0 ซึ่งหากพวกเขาเอาชนะ “เจ้าสัวน้อย” ด้วยช่องว่งอย่างน้อย 3 ประตู จะทำให้เป็นครั้งแรกที่สามารถเอาชนะทีมทีมหนึ่งด้วยระยะห่างนี้ 4 เกมติดต่อกัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-เบิร์นลี่ย์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะทาบสถิติที่ นิวคาสเซิล ทำไว้เมื่อฤดูกาล 2001/02 10 เกม หากพวกเขาโดนยิงนำไปก่อนแล้วพลิกกลับมาชนะได้ เมสัน กรีนวู้ด แข้งดาวรุ่ง “ปีศาจแดง” ทำประตูได้ใน 2 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก หลังก่อนหน้านี้ 23 นัดในซีซั่นนี้เพิ่งยิงได้แค่ลูกเดียว โดยกองหน้าวัย 19 ปีรายนี้ทำประตูบนลีกสูงสุด อังกฤษ ไปแล้ว 13 ลูก ซึ่งมีแค่ เวย์น รูนี่ย์ (15) เท่านั้นที่เป็นแข้งวัยทีนเอจของ แมนยู ที่ทำประตูได้มากกว่าใน พรีเมียร์ลีก เบิร์นลี่ย์ หวังว่าพวกเขาจะเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่กลับออกไปจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยการไร้พ่าย 5 เกมติด โดยมีแค่ เชลซี เท่านั้นที่ทำได้สูงสุดด้วยจำนวน 6 นัดช่วงระหว่างปี 1994-1998คริส วู้ด กองหน้า เบิร์นลี่ย์ มีสิทธิ์เป็นผู้เล่นคนที่ 6 ที่สามารถยิงประตูได้ที่ โรงละครแห่งความฝัน 3 นัดติดต่อกัน ซึ่งก่อนหน้านี้มี จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัลเซลเบงค์ (2001), มาร์ค วิดูก้า (2007), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (2014) และ กิลฟี่ ซิเกิร์ดสสัน (2017) ที่เคยทำได้หลังบุกเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ลีดส์ ยูไนเต็ด มีสิทธิ์เป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่จะสามารถเอาชนะทีมจ่าฝูงในซีซั่นปัจจุบัน กับเอาชนะทีม “แชมป์เก่า” ได้สองเกมติดต่อกัน หลังก่อนหน้านี้ เอฟเวอร์ตัน เคยทำได้มาแล้วในการชนะ เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010 ลีดส์ เสียประตูไปถึง 52 ลูกจาก 25 นัดบนศึก พรีเมียร์ลีก ในการเจอกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นทีมที่พวกเขาเสียประตูให้มากที่สุด โมฮามเหม็ด ซาลาห์ ต้องการอีกประตูเดียวเพื่อจะทำให้ตัวเองเป็นผู้เล่น “หงส์แดง” คนแรกที่ทำประตูบนเวที พรีเมียร์ลีก แตะหลัก 20 ลูกเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกันลิเวอร์พูล เอาชนะ 5 จาก 6 นัดในการเล่นเกมเยือนในลีกล่าสุด โดย 4 ทริปหลังสุดคือการเยือนทีมแถบ ยอร์ค เชียร์