หัวใจนักสู้ ดันขาดความเฉียบคมทำให้แมตช์นี้ยังคงสูสี

หัวใจนักสู้ สำหรับตอนนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ต้องรีบเรียกขวัญกำลังใจ และกระตุ้นลูกทีมอย่างหนัก เพราะถึงแม้ว่าการลุ้นติดหนึ่งในสี่หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสสำคัญ ในการขึ้นไปรั้งอันดับ 4 หลังจากที่พวกเขา ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ “ยูงทอง”ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1

ที่สนามเอลแลนด์ โรด ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ  หนึ่งคะแนนในแมตช์ นี้ถือว่าเสียหายอย่างยิ่งสำหรับแชมป์เก่า เพราะนั่นทำให้โอกาสในการคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของพวกเขายากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาซะอีก

เนื่องจาก เชลซี มีโปรแกรมดวลกับ ไบรท์ตันฯ  หากพวกเขาชนะจะขึ้นไปอยู่ท็อปโฟร์ทันที พร้อมทำแต้มทิ้ง “หงส์แดง” 4 คะแนนเลยทีเดียว

1. เทรนต์ คืนฟอร์มเก่งช่วงนี้ต้องยอมรับว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เรียกฟอร์มเก่งของตัวเองกลับคืนมาได้อย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่น่าประทับใจมากขึ้นก็คือผลงานในเกมรับของเขาที่ดูเหมือนจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

ส่วนเรื่องเกมรุกถือเป็นเครื่องหมายการันตีของเจ้าตัวอยู่แล้ว แมตช์นี้ “เจ้าหนูเทรนต์” ใช้โอกาสในการเติมเกมรุกที่ดุดันเนื่องจากแนวรับของลีดส์ มักจะดันขึ้นสูงทำให้มีพื้นที่ว่างบริเวณริมเส้น ซึ่งทำให้ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ ฉกฉวยประโยชน์จากตรงนี้เติมเกม

หัวใจนักสู้

และเปิดบอลกดดันเจ้าบ้านได้ตลอดโดยเฉพาะในครึ่งแรกอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เพิ่งจะสวมบทฮีโร่จัดการซัดประตูชัยในช่วงทดเจ็บเกมชนะ แอสตัน วิลล่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ในเกมนี้เขาก็เป็นคนแอสซิสต์ให้กับ ซาดิโอ มาเน่ ซัดประตูให้ “หงส์แดง”

ขึ้นนำในครึ่งแรกสำหรับครึ่งหลัง ฟูลแบ็กเลือดผู้ดี ไม่ค่อยได้มีโอกาสที่จะวิ่งขึ้นไปกดดันกองหลัง “ยูงทอง” มากนัก เนื่องจากทีมของกุนซือมาร์เซโล่ บิเอลซ่า เปิดเกมบุกใส่อย่างต่อเนื่องทำให้เขาต้องมาเล่นเกมรับ และก็ทำได้ดี

แต่น่าเสียดายที่ดันมาโดนตีเสมอจากลูกเตะมุมในช่วงท้ายเกม แม้ผลการแข่งขันจะไม่น่าอภิรมย์สำหรับสาวก “เดอะ ค็อป” แต่อย่างน้อยการได้เห็น “เทรนต์” ซึ่งทำได้ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ตลอดการเล่น 6 แมตช์ติดต่อกัน ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี OhoZaa

เพราะนี่เป็นสิ่งที่เหล่าสเกาเซอร์ไม่ได้ เห็นมานานหลายเดือนแล้ว

2. หัวใจนักสู้ของลีดส์ สำหรับ 45 นาทีแรกแน่นอนว่าลิเวอร์ พูลทำผลงานได้เหนือกว่า และสมควรที่จะได้ประตูขึ้นนำ 1-0 หรืออาจจะได้มากกว่านี้หากพวกเขามีความเฉียบคม แต่ผลงานช่วงครึ่งหลังสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องยกเครดิตให้กับ ลีดส์ยูไนเต็ดใครจะไปคิดว่า

“เดอะ เร้ดส์” ที่ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่ครองบอลเหนือกว่าคู่แข่งตลอด จะโดนเจ้าบ้านครองเกมได้กว่า 70 เปอร์เซนต์ในช่วง 45 นาทีหลัง แถมยังสร้างโอกาสได้มากมาย จนทีมเยือนออกอาการเป๋ไปเป๋มาหลายต่อหลายครั้งหนึ่งในเหตุผลที่ลิ เวอร์พูล

ไม่เสียประตูนั่นก็เพราะความเหนียวหนึบของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ช่วยเซฟจังหวะสำคัญๆ หลายครั้งโดยเฉพาะจากการยิงของ แจ็ค แฮร์ริสัน กับ ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ ขณะที่ แพทริค แบมฟอร์ด ซัดอย่างเหนือชั้นแต่น่าเสียดายบอลชนคานการปรับหมากของ บิเอลซ่า

ทำให้ ลีดส์เล่นได้ อย่างน่าเกรงขาม แม้ว่าแนวรับของพวกเขาจะลอยสูง แต่เกมบุกของลิเวอร์ พูลดันขาดความเฉียบคมทำให้แมตช์นี้ยังคงสูสี ที่สำคัญนักเตะ “ยูงทอง” ไม่กลัวที่จะเปิดหน้าแรกกับแชมป์เก่า จนกระทั่งมาได้ประตูตีเสมอในช่วงสามนาที สุดท้ายต้องยอมรับว่าลีดส์

ได้แสดงเห็นถึงการเล่นที่มุ่งมั่นกระตือรือร้น, การเคลื่อนที่หาตำแหน่ง และการพยายามกดดันเพื่อที่จะเอาประตูคืนให้ได้ โดยสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับเกมดวลลิเวอร์ พูลเท่านั้น แต่พวกเขาแสดงให้เห็นมาตลอดในทุกๆ แมตช์ในฤดูกาลนี้

ฉะนั้นการได้ 1 คะแนนจากลิเวอร์ พูลถือเป็นแต้มที่สมควรอย่างยิ่งที่พวกเขาได้รับจากความพยายามที่ไม่เคยย่อท้อ และความกล้าที่จะห่ำหั่นกับคู่ต่อสู้แบบไม่เกรงกลัว

3. สามประสานแนวใหม่ฟอร์มยังไม่สุดคล็อปป์ เลือกใช้แท็กติก 3 ประสานเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ลองหันมาใช้ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ดีโอโก้ โชต้า ต้องบอกว่าการที่สามคนนี้ลงสนามพร้อมกันช่วยทำให้เกมบุกของ ลิเวอร์พูล มีมิติที่หลากหลาย

และสามารถปั่นป่วนเกมรับของเจ้าบ้านได้ตลอดโดยเฉพาะในช่วง 45 นาทีแรก โชต้า ถูกจับให้ไปยืนเป็นตัวรุกฝั่งซ้าย และเขาก็ทำผลงานได้ดีเยี่ยมเพราะการเคลื่อนที่ของ ดาวเตะชาวโปรตุกีส ทำให้กองหลัง ลีดส์ต้องเจอกับงานที่ ยากลำบากในการหยุดเขา

หัวใจนักสู้

โดยเฉพาะเวลาที่ได้บอลในเขตโทษ โชต้า มีโอกาสที่จะยิงประตูแต่น่าเสียดายที่เขาขาดความเฉียบคมไปหน่อย สำหรับ มาเน่ กับ ฟีร์มีโน่ ถือว่าทำผลงานได้ตามมาตรฐาน เพราะทั้งคู่ใช้ทักษะส่วนตัวในการจัดการกับแนวรับ “ยูงทอง” ก่อนที่ สตาร์ทีมชาติเซเนกัล หัวใจนักสู้

จะได้รับบอลถวายพานมาจาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และเขาก็จัดการไม่เหลือซากในครึ่งหลัง คล็อปป์ ตัดสินใจถอด มาเน่ ออกและให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงมาแทน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ ลิเวอร์พูล สามารถกดดันกองหลังเจ้าบ้านได้เรื่อยๆ แม้ในครึ่งหลัง ลีดส์จะครองเกมได้เหนือกว่า

แต่ทีมเยือนก็มีโอกาสสวนกลับหลายครั้ง น่าเสียดายที่พวกเขาขาดความเฉียบคม ไม่อย่างนั้นผลการแข่งขันอาจไม่ออกมาเป็นแบบนี้ |  https://ohozaa.com