เด็กเส้น ธีรศิลป์ แดงดา เหมาะกับ สำนวนอเมริกันอยู่ 1 สำนวนที่ว่า “ปลาใหญ่ในบ่อเล็ก”
เด็กเส้น จุดหมายความถึง การเป็นผู้ที่รู้จักกันดี และก็สำคัญในกรุ๊ปเล็กๆแต่ว่าไม่มีชื่อเสียง หรือมีความหมายข้างนอกกรุ๊ปเลย การเป็นปลาใหญ่ในบ่อเล็ก มีอีกทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่เสียในขณะเดียวกัน ขึ้นกับว่าคน ๆ นั้นจะพึงพอใจในหน้าที่ปลาใหญ่ตัวนั้นไหม…
ในบ่อเล็กๆเขาเป็นราชาที่จะว่ายไปไหนทางไหน ผู้คนก็จะต้องเลี่ยงทาง แม้กระนั้นเขาจะไม่อาจจะโตไปได้มากกว่านี้ เนื่องจากว่าอยู่เหนือสุด ของห่วงโซ่ของกินแล้ว ตรงข้ามถ้าเขาย้ายบ่อไปเป็น “ปลาเล็กในบ่อใหญ่”
สิ่งที่เคยทำมา ก็จะเกือบจะปราศจาก ความหมาย แล้วการต่อสู้ เพื่อขยายร่างใหม่ ก็เริ่มขึ้น นี่เป็นเรื่องราว ของปลาใหญ่ ในบ่อเล็กที่ชื่อว่า “ไทยลีก” ธีรศิลป์ แดงดา เป็นนักฟุตบอล ที่ออกเผชิญภัยมากยิ่งกว่า นักฟุตบอลคนใดกัน ๆ ในประเทศ กับได้เปิดโลกทัศน์ให้บอลไทย ได้รับทราบผ่าน ขณะที่ยากลำเค็ญของเขา การต่อสู้ของปลาเล็ก
ใครก็ตามบนโลกนี้ ก็ไม่สามารถ ที่จะหนีคำนินทา และก็ข้อวิพากษ์วิจารณ์ได้ แม้พวกเราดู ไปที่ตัวของ ธีรศิลป แดงดาใน ในขณะนั้น ที่ปลอดคนไทย ผู้ใดกันกล้าสงสัยอีกแล้วว่า เขาเป็นแผงหน้าไทย ที่ดีเยี่ยมที่สุด ในยุคนี้ หรือไม่ วิเคราะห์บอล
แม้กระนั้นแม้ย้อนกลับไปในวันที่ ธีรศิลป์ ยังอยู่ในวัยทีนเอจ เขาเคยถูกเรียกว่า “เด็กเส้น” มาก่อน
“เด็กเส้น” เป็นหนึ่งในจารีตประเพณี การทำงานแบบไทย ๆ ที่อาจจะไม่เห็น ไม่อาจจะหาหลักฐานกระจ่างได้ แม้กระนั้นก็ สามารถรับทราบได้ด้วยความรู้สึก แล้วก็การที่มันเป็นการเดา โดยความรู้สึกนี่แหละ ความนึกคิดของมนุษย์ ก็ชอบไปได้ไกลรวมทั้งเยอะแยะ อย่างมาก
ในตอนที่กลุ่มชาติไทย ยังมิได้บูมเต็มที่ มีปัญหาเรื่องฟอร์ม การเล่นเกือบทุกชุด เป็นช่วงๆในเวลาที่ ธีรศิลป เติบโตขึ้นมาพอดิบพอดี … คริสต์ศักราช 2004 หรือตอน พุทธศักราช 2547 ธีรศิลป อายุ 17 ปี
รวมทั้งได้เล่นบอลอาชีพให้กับสมาคม ราชประชากร โดยยิงได้ 3 จาก 6 เกมที่ลงไปในสนาม ต่อจากนั้นก็เริ่มได้ลงเล่นเยอะขึ้นเรื่อยๆในปีต่อ ๆ มา แนวรุกรูปร่างดี ทำประตูเก่ง สามารถถอยลดน้อยลงมาประดิษฐ์เกมรุกได้
เป็นขั้นตอนการเล่นของ ธีรศิลป์ ภายหลังจากแจ้งกำเนิดได้ไม่นานชมรม เมืองทองคำฯ ยูไนเต็ด ที่กำลังจะมีโปรเจ็กต์สร้างสมาพันธ์ให้ยอดเยี่ยมกลุ่มของประเทศไทย โดยรวมเอากรุ๊ป นักฟุตบอลที่เยี่ยมที่สุด ในประเทศมารวมตัวกัน
ราวกับโมเดลที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยใช้ครอบครองการบรรลุผลในบอลอังกฤษ เก่งขึ้นในแต่ละขวบปี เพียงแค่ในเวลานั้นบอลลีกของไทยไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากสักเท่าไรนัก โดยเหตุนี้ ถ้าไม่ใช่ผู้ที่ติดตามจริง ๆ หรือเป็นแฟนของเมืองทอง
ก็เกือบจะไม่รู้เรื่องความเก่งกล้า ของธีรศิลป์เลย ฉะนั้นมันก็เลยคือเรื่องปกติ ที่พวกเขาต้องสงสัย ในวันที่ ธีรศิลป ก้าวขึ้นไปติดกลุ่มชาติชุดใหญ่ ซึ่งนับว่าเป็นเวทีเดียวที่คนประเทศไทยทั่วประเทศจะได้ทราบจะนักฟุตบอลไทย ได้ดิบได้ดีที่สุด มันเป็นมุมของเขา
เริ่มมีความชำนาญ การเล่นที่ดีเลิศขึ้น มีหลายทีมทั้งในประเทศ และก็นอกประเทศพอใจอยากได้ตัว ไปร่วมกลุ่ม
ซึ่งตัวผมและก็สตาฟ ผู้ฝึกสอนทุกคนเชื่อถือเลยว่า เด็กคนนี้มีอนาคตที่แจ่มใสแน่ ๆ” นี่เป็นสิ่งที่ โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ประธานเคล็ดวิธีของเมืองทอง ในยุคนั้นกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลไทย ใครหลาย ๆ คนไม่ค่อยจะเห็นด้วยนักในทีแรก ๆ ที่พวกเขาได้มองเห็นธีรศิลป ลงเล่นให้กับกลุ่มชาติ
เมื่อมีใครซักคน ที่พวกเขาไม่ทราบขึ้นมาติดกลุ่มชาติ มันต้องมีปริศนาอยู่เสมอว่า “เด็กเส้นหรือไม่” ธีรศิลป นับว่ามีคุณลักษณะเข้าแก๊ปหลายข้อเป็น ก้าวขึ้นมาติดกลุ่มชาติตั้งแต่อายุยังน้อย, ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงก่อนรุ่นพี่,
ได้รับการสนับสนุนผ่านสื่อและก็สโมสร เช่น การได้ไปสมาคม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงสั้นๆทุกคนเห็นว่าการก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของกลุ่มชาติไทยของ ธีรศิลป นั้น “ง่ายเกินความจำเป็น เช่นเดียวกันกับเป็นเด็กเส้น”
“เท่าที่รู้ยังไม่มีประเทศไหนเขาเอานักบอลจากดิวิชั่น 2 มาติดกลุ่มชุดใหญ่เลยจ้านะครับ เท่านี้ก็เพียงพอจะมองออกว่าพ่อดันแค่ไหน แล้วพวกที่เล่นดิวิชั่น 1 (อีกหลายสิบ) พวกที่เล่นไทยลีก(ก็อีกหลายสิบคน) มันไม่มีฝีเท้าที่จะเล่นสู้ ได้เลยหรอนะครับ
ไม่ใช่ว่าผมใจคอคับแคบนะ แม้กระนั้นควรจะทำอย่างมีระบบมากยิ่งกว่านี้ อย่างยิ่งเขาได้ติดกลุ่มชุดกีฬาซีเกมส์ก็พอแล้ว” นี่เป็นแบบอย่างความเห็นของแฟนบอลในเว็บ ไทยแลนด์สู้ สู้ ซึ่งนับว่าเป็นศูนย์รวมของคนหลงใหลบอลไทยในตอนหลายปีที่ผ่านเลยมา
ตอนที่ไปทดลองฝีเท้ากับ แมนฯ ซิตี้ นั้นถ้าเกิดบอกกันตรงๆเป็นตอนขายฝันให้แฟนบอลไทย หลายท่านยังแอบหวังว่าจะได้มองเห็นชาวไทยเล่นในพรีเมียร์ลีก บอลลีกที่คนประเทศไทยติดตามเยอะที่สุด แม้กระนั้นตามความจริงนั้นยากมากมาย
การมาจากเมืองไทย กับระดับพรีเมียร์ลีกนั้น ห่างกันเหลือเกิน ทั้งยังยังมีเรื่องมีราว ของเวิร์กเพอร์ไม่ตมาขวางอีก 1 ต่อ ทำให้ ธีรศิลป รวมทั้งสหายๆอีก 2 คนอย่าง เกียรติยศประวุฒิ สายแวว, สุริยัน สุขะ จะต้องประจันหน้ากับความลำบากตรากตรำในแบบที่พวกเขา ไม่มีทางจะได้พบเห็น สำหรับในการเล่นลีกอาชีพ ในไทยได้เลย