แดนกลางใครแย่สุด ลิเวอร์พูล คลาดโอกาสที่จะได้ขึ้นไปนำหัวหน้าฝูงหลังจากทำได้เพียงแค่เปิดรังแอนฟิลด์ เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2
แดนกลางใครแย่สุด ลิเวอร์พูล คลาดโอกาสที่จะได้ขึ้นไปนำหัวหน้าฝูงหลังจากทำได้เพียงแค่เปิดรังแอนฟิลด์ เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค.ก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยงานนี้ต้องบอกว่าลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์
พบกันงานสุดหินในตอน 45 นาทีแรก ส่วนฟอร์มกลับมากระเตื้องขึ้นในตอนครึ่งหลัง สำหรับฟอร์มของนักเตะ “ลิเวอร์พูล” ต้องกล่าวว่าที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือผู้เล่นในแผงกองกลางที่สู้แดนกลาง “เรือใบสีฟ้า”มิได้ ขณะที่แนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่
ยังคงเป็นคีย์แมนของทีมเหมือนเดิม 11 ตัวจริง อลีสซง เบ็คเกอร์ : 7 ฟอร์มในช่วงแรกไม่ค่อยดีนักแต่ต่อจากนั้นผลงานก็ค่อยๆเด่นโดยเฉพาะการเซฟจังหวะที่ ฟิล โฟเด้น หลุดเข้าไปในเขตโทษ แล้วก็อีกจังหวะที่ใช้ขาสกัดบอลจาก โฟเด้น
ส่วนสองประตูที่เสียไปต้องบอกเลยว่าหมดสิทธิ์ป้องกันจริงๆ เจมส์ มิลเนอร์ : 5 ผลงานในแมตช์นี้ถือว่าน่าผิดหวังมากๆโดยเฉพาะการต้องสู้กับ โฟเด้น ที่มีทั้งความหนุ่ม, รวดเร็ว แล้วก็เทคนิคดี โดยมีหลายครั้งที่เขาถูกดาวรุ่ง “เรือใบสีฟ้า” พาทัวร์ตลอด
และยังเสียใบเหลืองด้วย ขณะที่ประตูตีเสมอของ แมนฯ ซิตี้ ก็มาจากการหลุดตำแหน่งของเจ้าตัวด้วย แม้จะพยายามช่วยเติมเกมรุกแต่ก็ทำได้ไม่ดี ที่สำคัญยังเกือบจะโดนเหลืองที่ 2 จากจังหวะสกัด แบร์นาร์โด ซิลวา โฌแอล มาติป : 7
เล่นเกมรับได้เหนียวแน่น สามารถจัดการเกมบุกแมนฯ ซิตี้ ได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนครึ่งหลังพยายามที่จะลำเลียงบอลขึ้นจากหลังเข้าไปในแดนคู่แข่ง รวมทั้งหาพื้นที่ว่างเพื่อเปิดบอลให้ผู้เล่นแนวรุก บางจังหวะยังวิ่งมาทำหน้าที่เป็นฟูลแบ็ก
แดนกลางใครแย่สุด เวลาที่ตัวบุกปีกซ้าย-ขวาเติมเกมรุก แต่โชคร้ายที่ลูกยิงของ เควิน เดอ บรอยน์ ไปแฉลบตัวเขาทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ตีเสมอ 2-2 เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : 7 ยังคงเป็นที่พึ่งพาในเกมรับได้เสมอ โดยเขาสอดประสานการเล่นร่วมกับ มาติป ได้เป็นอย่างดี วิเคราะห์บอล
ลิเวอร์พูล ฟอร์มกลับมากระเตื้องขึ้นในตอนครึ่งหลัง
แดนกลางใครแย่สุด สามารถจัดการกับ ไคล์ วอล์คเกอร์ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ตลอด แต่ในส่วนของเกมรุกแมตช์นี้ไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 7 พละกำลังในการเล่นของเขายังคงเหลือเฟือ วิ่งขึ้นลงทางฝั่งซ้ายได้ตลอดทั้งเกม
และพยายามทำงานหนักเพื่อสร้างโอกาสในการทำประตูให้กับเพื่อนร่วมทีม ขณะที่เกมรับยังคงรักษามาตรฐานได้ดี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : 5 ถือเป็นเกมที่ไม่น่าจดจำสำหรับ เฮนเดอร์สัน จริงๆ ผลงานในครึ่งแรกผ่านบอลสำเร็จแค่ 50 เปอร์เซนต์
และยังต้องเจอกับความยากลำบากในการคุมพื้นที่แดนกลาง ขณะที่เกมบุกก็น่าผิดหวัง ที่สำคัญยังพลาดในการหยุด ซิลวา ทำให้ มิลเนอร์ ต้องเข้ามาทำฟาวล์จนเกือบโดนใบเหลืองที่ 2 ฟาบินโญ่ : 6 ผลงานในครึ่งแรกไม่สามารถรับมือกับแดนกลาง แมนฯ ซิตี้ ได้เลย
ในช่วงครึ่งหลังฟอร์มกลับมาดีขึ้น แต่ก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน ที่สำคัญยังพลาดโอกาสทองในการทำประตูชัยช่วงท้ายเกม เคอร์ติส โจนส์ : 6 ครึ่งแรกผลงานเงียบสนิท แต่ครึ่งหลังเริ่มมีบทบาทมากขึ้น พยายามทำงานหนักในการไล่แย่งบอล
และเป็นคนที่ส่งบอลให้ ซาลาห์ กระชากลากเลื้อยเข้าไปทำประตูให้ทีมขึ้นนำ 2-1 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 9 แม้ว่าช่วง 45 นาทีแรกจะไม่ได้สร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน แต่หลังจากกลับมาลงสนามในครึ่งหลัง “บังโม” โชว์ของเต็มสูบทั้งการยกบอลหนี ชูเอา กันเซโล่
ก่อนส่งบอลถวายพานให้ มาเน่ ตะบันประตู และอีกลูกมาจากสเต๊ปเวิลด์คลาสของเขา ซึ่งหลายคนมองว่ามีลุ้นเป็นประตูยอดเยี่ยมประจำซีซั่นเลยทีเดียว ดีโอโก้ โชต้า : 6 ไม่ได้โดดเด่นแต่ก็ไม่เลวร้ายสำหรับผลงานของ โชต้า
โดยเจ้าตัวมีจังหวะเด็ดที่หลอกกองหลังแมนฯ ซิตี้ 2 คนจนหัวทิ่ม แต่น่าเสียดายที่กองหลังอีกคนของทีมเยือนยื่นขาสกัดได้ทัน นอกจากนี้เขายังโชว์ทักษะไขว้หนีแนวรับ “เรือใบสีฟ้า” ก่อนตะบันเต็มข้อแต่โดน เอแดร์ซอน เซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด
ซาดิโอ มาเน่ : 7 ความเร็วของเขาสร้างประโยชน์ให้กับ ลิเวอร์พูล ได้ตลอด พยายามวิ่งหาพื้นที่ว่าง โดยเฉพาะจังหวะที่ได้ประตูขึ้นนำ ถือเป็นการวิ่งทำทางที่ยอดเยี่ยม และจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม ผลงานแบบนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่านี่คือหนึ่งในแข้งสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้จริงๆ
ตัวสำรองที่ลงสนาม โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ( แทน ดีโอโก้ โชต้า น.68) : 5 ลงมาแล้วไม่ได้ช่วยทำให้เกมรุกของทีมโดดเด่น บางจังหวะยังจ่ายบอลเสีย ส่วนการครองบอลก็ยังขาดๆ เกินๆ โจ โกเมซ ( แทน เจมส์ มิลเนอร์ น.78) : 5 พยายามที่จะมาช่วยอุดรอยรั่วของ มิลเนอร์
แต่ก็ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ประตูที่โดนตีเสมอก็มาจากการถูกโจมตีทางฝั่งขวา ซนเด่นจ่าย2