กำแพงหงส์แดงร้าว เกมที่ผ่านมาลิเวอร์พูลกำชัยได้แค่สองเกมเท่านั้น

กำแพงหงส์แดงร้าว หากวันเสาร์นี้ ปืนใหญ่ ทีมฟอร์มแรงที่ชนะรวด ในสี่นัดหลังของทุกรายการ บุกมาเก็บสามแต้มที่ แอนฟิลด์ ได้ มิเกล อาร์เตต้า ก็จะพาทีม ปืนใหญ่ แซงหน้าเจ้าบ้านบนอันดับตารางได้หนึ่งแต้ม

และมันหมายความว่าหงส์แดง จะหลุดจากท๊อปโฟร์ลงมาอยู่ที่ห้าแทน ซึ่งเป็นเหมือนสัญญาณเตือนภัย สำหรับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์เลยก็ว่าได้

ถ้างั้น ปัญหาของหงส์แดง อยู่ตรงไหนกันแน่ จากการลงเล่นเก้านัดหลังทั้งใน พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีกหงส์แดง เสียประตูไปทั้งสิ้น 13 ลูก

ลางไม่ดีถูกเผยให้เห็น ตั้งแต่นัดบุกไปเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 3-3 โดยทีมของ คล็อปป์ ต้องแบ่งแต้มให้น้องใหม่ก่อนหมดเวลาแปดนาที

และล่าสุดก่อนเข้าสู่ช่วงเบรกนัดทีมชาติ เร้ด แมชีน ก็บุกไปเสียท่าให้ เวสต์แฮม ที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม 3-2 สานต่อเจอร์ราร์ด

กำแพงหงส์แดงร้าวจึงบอกได้เลยว่าหากไม่ได้พิษสงการถล่มประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ช่วยเอาไว้ก่อนหน้านี้ในหลายๆนัด บางที หงส์แดง ก็ไม่น่าจะมีลุ้นคว้าความสำเร็จ ในเมื่อพวกเขาแก้ปัญหานัดรับไม่ตก

สำหรับซีซั่นนี้หงส์แดง เสียประตูอย่างง่ายดายผิดไปจากซีซั่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด มันอาจไม่เกี่ยวอะไรกับแท็คติก และน่าจะเป็นความผิดพลาดเฉพาะบุคคลมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องยากที่ คล็อปป์ จะแก้ไขได้

เหตุผลสำคัญประการที่สองในแนวรับของหงส์แดง คือ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ด่วนกลับมาลงสนามเร็วเกินไปหลังมีปัญหาเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด และมันส่งผลกระทบต่อสภาพความฟิตที่ยังไม่เต็มร้อย

ดังจะเห็นว่าอดีตแข้งทีม เซาธ์แฮมป์ตัน แลดูไม่ปราดเปรียวเหมือนก่อน และสปีดในนัดของเขาตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด

ที่แน่ๆก็คือการเสียประตูในนัดดวลกับ เบรนท์ฟอร์ด และ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ฟาน ไดค์ ยังต้องเรียกฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองกลับมาให้ได้ กำแพงหงส์แดงร้าว

จากที่มีสถิติตีแผ่ ระดับฟอร์มการเล่นของ ฟาน ไดค์ ตกลงไปจากซีซั่น 2019/20 อย่างน่าใจหาย กำแพงหงส์แดงร้าว

การแย่งบอลกลับคืนมาของเขาตกจากตัวเลข 97 เหลือ 77 ขณะที่การดวลลูกกลางอากาศก็ตกจากตัวเลข 77 เหลือ 53 และที่สำคัญ คุณภาพในการเล่นนัดรับ ของเขาตกลงแบบฮวบฮาบจาก 85 เหลือแค่ 8 เท่านั้น

มันจะเป็นวิกฤติย่อมๆที่กำลังก่อตัวในทีมหงส์แดง

แม้หลายคนจะมองว่าการย้ายออกไปของมิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์ ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อหงส์แดง แต่จากหลักฐานมันฟ้องให้เห็น อย่างชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องเล็กเลย

นั่นเป็นเพราะว่าซีซั่นก่อน ไวจ์นัลดุม ได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ครบทุกนัดโดยเขาได้ลงสนามเป็นตัวจริง 34 นัด แถมพลาดไปแค่นัดเดียวเท่านั้น เป็นตัวจริง35นัด ในซีซั่น 2019/20 ที่ เร้ด แมชีน คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครองได้ กำแพงหงส์แดงร้าว

ในฐานะมิดฟิลด์ด้านซ้าย ไวจ์นัลดุม เป็นเลิศในด้านการครองบอล และคุมจังหวะนัด อีกทั้งรักษาพื้นที่ได้ดี และเล่นได้อย่างขาวสะอาด ตลอดจนผ่านบอลได้เฉียบซึ่งช่วยทำให้หงส์แดง ครองบอลได้เหนือกว่าคู่แข่งหลายขีดขั้น

โดยเฉพาะหากหงส์แดง ได้ประตูนำหน้าฝ่ายตรงข้ามไปก่อน การมีดาวเตะดัตช์อยู่ในทีมก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้ว่าพวกเขามีโอกาสกำชัยชนะแบบเห็นๆ

แน่นอนว่าฟอร์มที่ถดถอยของ ฟาน ไดค์ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ หงส์แดง ในซีซั่นนี้ และมันยังลามไปถึงการก่อความผิดพลาด บ่อยครั้งมากขึ้นของ อลิสซง เบ็คเกอร์ ด้วย

กำแพงหงส์แดงร้าว

นายทวารทีมชาติบราซิลถูกกล่าวหาว่าก่อความผิดพลาด ทั้งสามประตูที่เสียไปให้กับ เวสต์แฮม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการตั้งรับลูกเซ็ตพีซ ที่หละหลวมของทีม และจากสี่ประตูที่เสียไปทั้งหมด 13 ประตูนับตั้งแต่นัดปะทะกับ เบรนท์ฟอร์ด ก็ล้วนเกิดจากลูกเซ็ตพีซทั้งสิ้น

เมื่อรวมทั้งสองประเด็นนี้เข้าด้วยกัน มันจึงเปิดโอกาสให้ทีมที่อ่อนกว่า และต้องเล่นนัดสวนกลับมีลุ้นทำประตูมากขึ้นเนื่องจากแผงแบ็คโฟร์ของหงส์แดง ป้องกันลูกเซ็ตพีซได้ไม่ดีพอ

เรียกว่าหาก หงส์แดง เปิดพื้นที่ หรือสูญเสียการครองบอลเมื่อไหร่ พวกเขาก็มีสิทธิ์เผชิญกับเรื่องที่เลวร้าย

อย่างไรเสีย ข่าวดีที่ยังพอจะมีอยู่บ้างของแฟนบอล เดอะ ค็อป ก็คือพวกเขามีโค้ชที่ช่ำชองในด้านแท็คติกอย่าง คล็อปป์ ซึ่งสามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างที่เขาแสดงให้เห็นมาแล้วกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รวมถึง หงส์แดง ด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกัน เร้ด แมชีน ก็รอแค่ให้ ฟาน ไดค์ กลับมาฟิตเต็มร้อยอีกครั้ง รวมทั้งการแก้ปัญหามิดฟิลด์ด้านซ้ายให้ลงตัว

ขอแต่ว่ามิดฟิลด์ขาประจำอย่าง ฟาบินโญ่ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ นาบี้ เกอิต้า อย่าขยันล้มเจ็บบ่อยก็แล้วกันเนื่องจาก โจนส์ กับ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน พึ่งพาอาศัยอะไรไม่ได้มากนัก

ไม่เช่นนั้น สาวก หงส์แดง ก็จะต้องกัดเล็บลุ้นกันแบบหัวใจจะวายแทบทุกนัดอย่างแน่นอน วิเคราะห์บอล