ถ้าได้จัดเต็มที่ จุดกำเนิดโควตาอายุเกิน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการพัฒนาโลก และให้ความรู้แก่เยาวชนด้วยกีฬา
ถ้าได้จัดเต็มที่ โควตานักเตะอายุเกินในการแข่งขันกีฬาทุกประเภท ไม่ว่าจะระดับโลกอย่างโอลิมปิกระดับทวีปอย่างเอเชียนเกมส์ หรือระดับภูมิภาคอย่างกีฬาซีเกมส์ ชอบมีการคำถามที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเสมอว่าตามที่เป็นจริงแล้วมันจำเป็นต้องไหม ? ควรที่จะใช้นักฟุตบอลโควต้าอายุเกิน 23 ปีเป็นแกนหลักของกลุ่มเพียงใด ? หรือควรจะมอบโอกาสดาวรุ่งได้ได้โอกาสในรายการกลุ่มนี้
พวกเราจะไล่เรียงกันตั้งแต่เริ่มว่า ตามที่เป็นจริงแล้วโควตาอายุเกิน 23 ปีที่ว่านี้มาจากไหน คนไหนเป็นคนตั้งกฎ รวมทั้งเอาเข้าจริงแล้วนักฟุตบอลโควตาพวกนี้ช่วยยกฐานะกลุ่มได้มากเพียงใด ? หรือมีเหตุมีผลอะไรก็แล้วแต่ที่ควรจะใช้งานพวกเขา ถ้าหากจัดเต็มกำลัง
จุดเริ่มต้นโควตาอายุเกิน เรื่องโควตาอายุเกินที่พวกเรากำลังจะเอ่ยถึงมีจุดเริ่มแรกมาจากมหกรรมกีฬาของมนุษยชาติอย่าง โอลิมปิก โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการช่วยปรับปรุงโลกแล้วก็ให้ความรู้ความเข้าใจแก่เยาวชนด้วยกีฬา มิได้แข่งขันกันเพื่อชิงความเป็นยอดเยี่ยมที่ทุกคนจำต้องมาทุ่มเทและก็ยอมแลกเปลี่ยนทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเพื่อชัย ด้วยเหตุว่าพวกเขาเห็นว่าอุดมการณ์ของการแข่งขันชิงชัยกีฬาโอลิมปิกตั้งแต่สมัยโบราณจะถูกทำลาย โดยเหตุนั้น โอลิมปิกในระยะแรกๆก็เลยห้ามส่งนักกีฬาระดับอาชีพมาชิงชัย
แต่เมื่อเวลาผ่านไปโลกก็เริ่มแปรไปตามสมัยตามสมัยนิยม คำว่า “นักกีฬาอาชีพ” (เล่นกีฬาแล้วก็ได้เงินค่าแรงแบบมีคำสัญญา) สื่อความหมายที่กว้างเกินกว่าจะนิยามได้ ก็เลยมีการพากเพียรเปลี่ยนกฎการส่งนักกีฬาลงแข่งขันใหม่ เพื่อตอบปัญหาในด้านของรายได้สำหรับเพื่อการแข่ง มีการเปิดกว้างกับนักกีฬาอาชีพเพิ่มมากขึ้น ให้ความใส่ใจในด้านของความเอ็นเตอร์เทน รวมทั้งประสิทธิภาพของการประลอง ซึ่งทั้งปวงนี้มีผลต่อรายได้รวมทั้งกระแสตอบรับจากผู้ชมทั้งหมดทั้งปวง
แม้กระนั้นสำหรับ กีฬาบอล นั้นมีความต่างบางประการกับกีฬาประเภทอื่นๆแต่ก่อนบอลมิได้ถูกใส่ไว้ในโอลิมปิกในระยะแรกๆและก็ถูกเริ่มใส่ข้างหลังสมัย 1900s เป็นต้นมา เพราะเหตุว่าข้างจัดอยากได้กระแสและก็กีฬาที่คนทั่วทั้งโลกต้องการมอง วิเคราะห์บอล
เป็นที่รู้กันอยู่ว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อันดับ 1 ของโลก 
สำหรับเพื่อการใส่บอลเข้าไปในระยะแรกๆก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าไรนัก เนื่องจากว่ากฎของการห้ามใช้นักกีฬาอาชีพทำให้ท่านภาพการแข่งขันชิงชัยน้อยจนถึงไม่ที่นาติดตาม ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างจัดก็เลยมีความรู้สึกว่าเมื่อจะแข่งขันทั้งทีก็ควรจะทำให้มันใหญ่ๆเบิ้มๆไปเลย ความเคลื่อนไหวก็เลยเริ่มขึ้นในปี 1984 ในโอลิมปิกที่ ลอสแอนเจลิส ประเทศอเมริกา เจ้าพ่อที่สปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์ของโลก
ถึงแม้คณะกรรมการโอลิมปิก จะยกมือช่วยเหลือโนบายนี้ที่อนุญาตให้นักกีฬาอาชีพลงในสนามได้กันอย่างครบถ้วน แม้กระนั้นการ “จัดเต็มในบอลโอลิมปิก” กลับถูกปฏิเสธโดย สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติ ด้วยเหตุว่าพวกเขามั่นใจว่าถ้าหากโอลิมปิกเต็มไปด้วยนักฟุตบอลระดับแถวหน้าของโลก รายการหลักที่ทำเงินเป็นอย่างมากของ สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติ อย่าง บอลโลก ก็จะถูกลดค่าลง ถ้าได้จัดเต็มที่
กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้ สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติ ปลดปล่อยฟรีให้ทุกชาติสามารถส่งนักฟุตบอลที่เยี่ยมที่สุดมาชิงชัยในโอลิมปิกได้ โน่นพอๆกับว่ามันจะแปลงเป็นการประลองบอลโลกขนาดเล็กๆและก็มันจะทำให้เกิดผลกระทบต่อกระแสของบอลโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
โดยเหตุนั้นการตกลงกันระว่าง สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติ ก็เลยได้บทสรุปในในที่สุดว่า เพื่อบอลในโอลิมปิกยังคงน่าติดตามแล้วก็บอลโลกก็ยังไม่เสียคุณประโยชน์ไป พวกเขาเลยเจอกันกลางทางด้วยการจำกัดไม่ให้นักเตะจากทวีปยุโรปและก็อเมริกาใต้ที่เคยผ่านเวทีบอลโลกมาแล้วลงเล่นในปี 1984 รวมทั้ง 1988 ก่อนที่จะในปี 1992
จะออกกฎใหม่ โน่นเป็นการให้ใช้ผู้เล่นอายุไม่เกิน 23 ปี และก็ปรับกฎใหม่อีกรอบในปี 1996 โน่นเป็นให้แต่ละชาติสามารถใส่ชื่อนักฟุตบอลอายุเกิน 23 ปีมาได้ 3 คน ซึ่งในกรณีนี้สามารถเลือกได้อย่างอิสระ จะเอาผู้ใดกันแน่มาก็ได้เพื่อทางออกที่ยอดเยี่ยมสำหรับอีกทั้ง 2 ข้าง
เมื่อโอลิมปิกได้สูตรสำเร็จ รายการมหกรรมกีฬาต่างๆอย่าง เอเชียนเกมส์ หรือ กีฬาซีเกมส์ ก็เริ่มมีการปรับตามในคราวหลัง แล้วก็แน่ๆว่า โควตาอายุเกิน 23 ปี 3 คน นั้นก็ทำให้การประลองน่าดูขึ้นจริง ถ้าได้จัดเต็มที่ ยกตัวอย่างในรายการเอเชียนเกมส์ ปี 2018 ที่ประเทศเกาหลีใต้ขนสตาร์เบอร์ 1 อย่าง ดื้อรั้น ฮึง ไม่น จาก ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ มาร่วมทีม ก็มีคู่รักๆทั้งยังของประเทศเกาหลีใต้รวมทั้งชาติอื่นๆรอดูฟอร์มของ ดื้อ อย่างใจจดใจจ่อ
มันยังไม่ใช่แค่นี้ พวกเราจะชี้แจงว่าเพราะเหตุใดเพราะเหตุใดโควตา 3 ที่สำหรับนักฟุตบอลแก่กว่า 23 ปี ถ้าเกิดจัดสุดกำลัง ก็เลยสำคัญยิ่งกว่าเรื่องของความน่าดึงดูดใจ แม้กระนั้นมันยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพกลุ่มที่มากขึ้นอีกด้วย เป็นไปได้มากที่สุด
การมองดููแต่ละประเทศ ของการแข่งขันฟุตบอลในระดับต่างๆ จะเป็นผลลัพธ์ดีแน่ ถ้าได้จัดเต็มที่ 
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า โควตา ยู-23 นอกเหนือจากการที่จะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้แต่ละกลุ่มได้แล้ว สิ่งที่ตามมาเป็นประสิทธิภาพของกลุ่มที่มากขึ้นด้วย เพราะเหตุว่านักฟุตบอลแก่กว่า 23 ปีนั้นถือได้ว่ากรุ๊ปนักฟุตบอลที่อยู่ในตอนจุดสุดยอดของอาชีพกันทั้งหมด รับรองได้จากรางวัลบัลลงดอร์ หรือรางวัลนักฟุตบอลที่ดีเยี่ยมที่สุดในโลกตั้งแต่แมื่อมีการแจกรางวัลตั้งแต่สมัยก่อนจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ มีเพียงแค่ ไมเคิล โอเว่น ในปี 2000 รวมทั้ง ลิโอเนล เมสซี่ ในปี 2009 แค่นั้นที่ได้รับรางวัลนี้ก่อนอายุ 22 ปี
นอกเหนือจากนั้นถ้าเกิดพวกเราย้อนมองแต่ละชาติที่ได้แชมป์บอลชายในมหกรรมกีฬาระดับต่างๆ ในโควตาอายุเกิน ยกตัวอย่างเช่นในโอลิมปิกที่ปี 2016 ที่ บราซิล ขนเอา เนย์มาร์ ที่ในเวลานั้นระเบิดฟอร์มยอดเยี่ยมกับบาร์เซโลน่า, เรนาโต้ ออกุสโต้ ดินแดนกึ่งกลางห้องเครื่องที่ติดชุดใหญ่มากว่า 30 เกม ก่อนคว้าเหรียญทองบอลโอลิมปิกคราวแรกในประวัติศาสตร์ชาติ
ในช่วงเวลาที่กลุ่มชาติบราซิลชุดแชมป์โอลิมปิก 2020 ถ้าหากจัดสุดกำลัง ก่อนหน้านี้ก็เลือกนักฟุตบอลประสบการณ์สูงในวัย 37 ปี อย่าง ดานี่ อัลเวส มาเป็นกัปตันกลุ่ม ก่อนสิ้นสุดลงด้วยการคว้าเหรียญทองอีกเช่นเดียวกัน เจาะให้ลึกลงไปอีกในแต่ละชาติที่มีชื่อเรื่องบอล ถ้าได้จัดเต็มที่
อย่างเยอรมนี ที่เข้ามาแข่งขันในโอลิมปิกดูเหมือนจะทุกครั้งรวมทั้งใช้โควตาอายุเกินทุกคราว แต่ว่าพวกเขากลับไม่เคยเลือกนักฟุตบอลที่อยู่ในเกรดที่เป็นตัวหลักของกลุ่มชาติชุดใหญ่มาร่วมทีมเลย ยกตัวอย่างเช่นในโอลิมปิก 2016 พวกเขาเลือกใช้นักฟุตบอลโควตาอายุเกินอย่าง 2 ญาติพี่น้อง เบนเดอร์ สเวน และก็ ลาร์ส รวมทั้ง นีลส์ ปีเตอร์สสังเวย ซึ่งรายนามทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นเพียงแค่กรุ๊ปนักฟุตบอลเกรดบีหรือเกรดซีของตัวเลือกทั้งหมดทั้งปวงที่เขามีเพียงแค่นั้น
แม้ โอลิมปิก ในคราวนั้นกรุ๊ปนักฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปีของเยอรมันจะนับว่าเป็นลำแข้งฝีเท้าดีในตอนนี้ทั้งยัง นิคลาส ซือเล่, แซร์จ ท้องนาร์บี้, เลออน โกเร็ตซ์กา รวมทั้ง ยูมัน บรันด์ท จะพาทีมไปถึงรอบชิงแชมป์ได้ แม้กระนั้นที่สุดแล้วพวกเขาก็จำต้องแพ้ให้กับลูกประสบการณ์และก็ความเก๋าของ บราซิล ที่มีนักเตะที่สร้างความไม่เหมือนได้อย่าง เนย์มาร์ นำกองทัพในสุดท้าย