ทีมยักษ์ใหญ่ยุโรป ประกาศเจตนารมณ์ที่จะจัดตั้งรายการใหม่ชื่อซูเปอร์ ลีกอย่างเป็นทางการ

ทีมยักษ์ใหญ่ยุโรป 12 สโมสรที่ประกาศตั้ง รายการนี้ประกอบด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี, อาร์เซน่อล, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, ยูเวนตุส, เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด

โดยพวกเขาระบุสถานะของตัวเองเป็น “สโมสรผู้ก่อตั้ง” พร้อมบอกว่าจะมีอีก 3 ทีมที่จะเข้าร่วมสถานะดังกล่าวก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันซูเปอร์ ลีกเป็นครั้งแรก แต่ไม่เปิดเผยว่า 3 ทีมนั้นเป็นใครบ้าง โดยพวกเขาบอกด้วยว่าหวังว่าจะสามารถ เริ่มแข่งรายการนี้ให้เร็วที่สุด

เท่าที่จะทำได้ตลอดช่วงหลาย เดือนที่ผ่านมามีกระแสข่าวลือ ว่าหลายทีมดังของทวีปยุโรปคิดที่จะแยกตัวไปจัดการแข่งขันรายการระดับทวีปรายการใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังจากไม่พอใจกับส่วนแบ่งที่ได้จากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) จากศึกต่างๆ อย่างเช่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

ซึ่งรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ก็รุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา12 ทีมดังของทวีปยุโรปประกาศจัดรายการซูเปอร์ ลีกแล้ว โดยมันจะเตะกันในช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นการทับกับรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโรปา ลีก ไปด้วย 12 สโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่

ของทวีปยุโรปประกาศเจตนารมณ์ที่จะจัดตั้งรายการใหม่ชื่อซูเปอร์ ลีกอย่างเป็นทางการ พร้อมกับเปิดตัวเว็บไซต์ของการแข่งขันด้วย โดยที่มีการแจกแจงรูปแบบของ การแข่งขันละเอียดในระดับหนึ่งเช่นกันสำหรับรูปแบบการแข่งขันที่ระบุ บนเว็บไซต์ของพวกเขานั้นชี้แจง ว่าแต่ละฤดูกาลจะมี 20 ทีม

ที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ ประกอบด้วย “สโมสรผู้ก่อตั้ง” 15 ทีมที่จะได้ลงเล่นแบบไร้เงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ต่อให้ผลงานในลีกจะย่ำแย่ก็ตาม และอีก 5 ทีมที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันโดยยึดจากผลงานกับการเล่นภายในประเทศของซีซั่นก่อนหน้านั้น

โดยจะเริ่มจากการแข่งรอบแบ่งกลุ่มซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 10 ทีม และจะเตะกันแบบเหย้า-เยือน เหมือนรายการถ้วยยุโรปที่ผ่านๆ มาทั้งนี้ จะมีทั้งหมด 8 ทีมที่ได้เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ โดย 3 อันดับแรกของทั้ง 2 กลุ่มจะได้เข้ารอบโดยอัตโนมัติ

ทีมยักษ์ใหญ่ยุโรป

ขณะที่โควตาอีก 2 ที่จะให้อันดับ 4 กับอันดับ 5 ของทั้ง 2 กลุ่มมาเตะเพลย์ออฟแบบเหย้า-เยือน เพื่อชิงตั๋ว 2 ใบสุดท้าย ซึ่งในรอบก่อนรองชนะเลิศกับรอบรองชนะเลิศก็จะเตะแบบเหย้า-เยือน เช่นกัน ก่อนที่ในนัดชิงชนะเลิศจะเล่นแบบนัดเดียวรู้ผล และจะเตะกันที่สนามเป็นกลางทั้งนี้

เปเรซ เผยว่าเราจะช่วยวงการฟุตบอลในทุกระดับ และพามันไปอยู่ในจุดที่คู่ควรของโลกใบนี้ ฟุตบอลเป็นกีฬาเดียวในโลกนี้ที่มีแฟนๆ มากกว่า 4 พันล้านคน และความรับผิดชอบของเราที่มีต่อพวกเขาในฐานะสโมสรใหญ่ก็คือการตอบสนองต่อความต้องการของพวกเขาให้ได้

ด้าน อันเญลลี่ กล่าวว่า “พวกเรา 12 สโมสรผู้ก่อตั้งมีแฟนบอลทั่วโลกรวมกันหลายพันล้านคน และได้แชมป์ในระดับทวีปยุโรปรวมกัน 99 รายการ เรามารวมตัวกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ก็เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการแข่งขันในระดับทวีปยุโรป  OhoZaa

ทำให้กีฬาที่เรารักมีสถานะ ที่มั่นคงในอนาคตระยะยาว

มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น การแข่งขันของเราจะทำให้แฟนๆ และนักเตะระดับสมัครเล่นได้เห็นเกมสนุกๆ ตามที่พวกเขามีอารมณ์ร่วมให้กับเกมลูกหนัง พร้อมกับจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้พวกเขาด้วยส่วน เกลเซอร์ ระบุว่า “การที่ซู เปอร์ลีก

นำเอาเหล่าสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกกับเหล่านักเตะชั้นยอดมาดวลกันตลอดทั้งฤดูกาลนั้นถือเป็นการเปิดบทใหม่ของวงการฟุตบอลยุโรป มันรับประกันว่านี่จะเป็นการแข่งขันระดับโลกและเตะกันในสนามระดับโลก รวมถึงมีการสนับสนุนด้านการเงินที่ดีขึ้นสำหรับโครงสร้างฟุตบอล

ในวงกว้างด้วยเหล่าผู้ก่อตั้งซูเปอร์ ลีกอ้างว่าเงินที่แต่ละทีมจะได้รับนั้นจะมากกว่าที่ทุกทีมได้รับจากการแข่งขันรายการระดับทวีปยุโรปในตอนนี้ โดยการแบ่งจ่ายจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ตามรายได้ของลีก และในช่วงแรกๆ ของการลงทุนของ “สโมสรผู้ก่อตั้ง” นั้น คาดกันว่าซูเปอร์ ลีก ทีมยักษ์ใหญ่ยุโรป

จะทำรายได้โดยรวมสูงถึงเกิน 10 พันล้านยูโร (ประมาณ 370,000 ล้านบาท) ซึ่งหลังจากนี้บรรดา “สโมสรผู้ก่อตั้ง” จะได้เงินกัน 3.5 พันล้านยูโร (ประมาณ 129,500 ล้านบาท) เพื่อนำไปสนับสนุนแผนงานการลงทุนของพวกเขา และบรรเทาผลกระทบที่ได้รับจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ทีมยักษ์ใหญ่ยุโรป

ด้วยความที่พวกเขาประกาศตั้งรายการใหม่ขึ้นมา ทำให้ตอนนี้ถือว่าทั้ง 12 ทีมออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคมสโมสรฟุตบอลประจำทวีปยุโรป (อีซีเอ) ทันที ทั้งที่จริงๆ แล้ว อันเดรีย อันเญลลี่ ประธาน ยูเวนตุส ก็เป็นบิ๊กบอสของ อีซีเอ อยู่ โดยที่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธาน มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่ยุโรป

ได้รับเลือกให้เป็นประธานคนแรกของซูเปอร์ ลีกส่วนรองประธานนั้นเท่าที่ได้รับการยืนยันในตอนนี้มี อันเญลลี่, โจเอล เกลเซอร์, ประธานร่วมของ แมนฯ ยูไนเต็ด, จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ บิ๊กบอสของ ลิเวอร์พูล และ สแตน โครเอ็นเก้ ผู้บริหารของ อาร์เซน่อล  |  https://ohozaa.com