ยอดคนสมองเพชร จิ้งจอกสยามทะลุเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ

ยอดคนสมองเพชร เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ชาวกระทิงดุ นำลูกทีมโชว์ ฟอร์มได้เด็ดสะระตี่ ถ้าหากเป็นมวยก็ต้องบอกว่าชนะทั้งคะแนน และชนะน็อก เพราะพวกเขาจัดการข่ม “ไก่เดือยทองมิดด้ามตั้งแต่นาทีแรกไปจนกระทั่งจบเกม ความสำเร็จในครั้งนี้

อาจจะเป็นการต่อ ยอดสำหรับการ ชิงโทรฟี่ 2 รายการสำคัญนั่นก็คือ พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฉะนั้นหากมองถึง ความฮึกเหิมของแข้ง “เรือใบสีฟ้า” ในเวลานี้บอกได้เลย ว่าพวกเขาคง ไม่อยากพัก และอยากจะลง แข่งเร็วๆ

เพราะหัวใจมันเรียก ร้องที่จะเอาอีก 2 แชมป์ที่เหลือมา ประตูตู้โชว์ที่เอติฮัด สเตเดี้้ยมความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมาจาก ความยอดเยี่ยมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพราะนับตั้งแต่ที่เขาเข้ามากุมบังเหียน “เรือใบสีฟ้า”

ผลงานของสโมสร ถือว่าสุดยอด และยกระดับกลายเป็นทีมแกร่ง ทั่วโลกต้องครั้นคร้าม กวาร์ดิโอล่า ไม่ใช่แค่นำ แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นทีมจอมบุก ครองเกมเหนือคู่แข่ง เท่านั้น แต่ยังมีการปรับแท็กติกให้เข้ากับแต่ละแมตช์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถดูได้จากสถิติหลังเกม

เพราะพวกเขาจะครองบอลได้เหนือกว่า สร้างโอกาสได้มากกว่า สำหรับการคว้าแชมป์คาราบาว คัพ ในฤดูกาลนี้ยังส่งให้ “เป๊ป” กลายเป็นตำนานบทใหม่ของรายการนี้ เมื่อเขาเป็นกุนซือคนแรกที่คว้าแชมป์ถ้วยใบเล็กเมืองผู้ดี 4 สมัยซ้อน แซงหน้า บ็อบ เพสลี่ย์

ตำนานผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ที่เคยทำได้ 3 สมัยซ้อนในช่วงระหว่างปี 1981-1984ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นนายใหญ่ชาวสแปนิชที่สามารถชูโทรฟี่ใบนี้ 4 ครั้งเทียบเท่ากับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, โชเซ่ มูรินโญ่ และ ไบรอัน คลัฟ และยังนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์สมัยที่ 8 เท่ากับ ลิเวอร์พูล

ยอดคนสมองเพชร

ด้วยหากนับรวมโทรฟี่นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาคุม บาร์เซโลน่า ไปหาความท้าทายกับ บาเยิร์น มิวนิค และบุกมาสร้างตำนานบนถิ่นอังกฤษร่วมกับ แมนฯ ซิ ตี้ ตอนนี้ เป๊ป สะสมความสำเร็จไปแล้ว 30 รายการในวัยแค่ 50 ปีเท่านั้น

สมควรได้แชมป์ด้วยประการทั้งปวง ก่อนเกมนัดชิง คาราบาว คัพ หลายคนฟันธงแบบไม่ต้องคิดมากว่า แมนฯซิ ตี้เหนือกว่า สเปอร์ส ทุกกระบวนท่าไล่ตั้งแต่ซุ้มม้านั่งสำรอง, ผู้เล่นตัวจริง ไปจนถึงกึ๋นของผู้จัดการทีม แต่ก็อาจจะมีบางคนที่คิดว่า “ฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้

แต่พอดีมันดันไม่เกิดขึ้น โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ เชลซี ได้ทิ้งวาทะเด็ดเอาไว้หลังเกมเขี่ย “เรือใบสีฟ้า” ตกรอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ ว่า “คุณสามารถเอาชนะทีมอย่างซิ ตี้ได้หากทุกคน ในทีมคุณเล่นได้ท็อปฟอร์ม” นั่นหมายความว่า “คุณ”  OhoZaa

ต้องเล่นด้วยฟอร์มที่สุดยอดเท่านั้น และวันนี้ “ไก่เดือยทอง”

ไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลย จะบอกว่า สเปอร์ส ทำไม่ได้ก็ไม่ถูกซะทีเดียว ต้องบอกว่า แมนฯ ซิ ตี้โหดเกินกว่าจะต้านทานได้มากกว่า เพราะพวกเขาเดินหน้าเปิดเกมบุกคู่แข่งแบบไม่เกรงใจ และครองเกมได้ตลอดตั้งแต่นาทีแรกจนกระทั้งสิ้นเสียงนกหวีดยาวจากปากของท่านเปาพอล เทียร์นี่ย์

ผลงานในช่วง 45 นาทีแรกทุกๆ คนคงประจักษ์แก่สายตาแมนฯซิ ตี้สร้างโอกาสได้มากมายก่ายกอง โดยเฉพาะจาก ราฮีม สเตอร์ลิง และ ฟิล โฟเด้น ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ยังทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ขั้นเทพในการผ่านบอลสวยๆ

ให้เพื่อนร่วมทีมหลายต่อหลายครั้ง ตลอด 80 กว่านาทีหากใครเป็นแฟนแมนฯซิ ตี้คงรู้สึกเสียวท้องน้อยเพราะพวกเขาสร้างโอกาสทำประตูได้เยอะแยะ แต่ทำพลาดเองบ้าง โดนกองหลังสเปอร์สบล็อกได้บ้าง หรือ อูโก้ โยริส ดันโชว์ฟอร์มเหนียวหนึบด้วย

ยอดคนสมองเพชร

นั่นทำให้หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า “หรือเทพีแห่งโชคจะอยู่ฝั่งสเปอร์ส กระนั้นอีกสองนาทีถัดมา อายเมริค ลาปอร์กต์ สวมบทฮีโร่โขกประตูชัยได้สำเร็จ ต้องบอกว่าถ้าหาก จอห์น สโตนส์ ไม่โดนใบแดงในเกมลีกเฉือน แอสตัน วิลล่า ยอดคนสมองเพชร

ทำให้ถูกแบนในเกมนี้ ชื่อของดาวเตะชาวฝรั่งเศส อาจจะไม่ได้อยู่บนสกอร์บอร์ดก็ได้ แม้สกอร์อาจจะดูสูสีเหลือเกินแต่หากมองจากภาพรวมตลอดทั้งเกมต้องบอกว่าแมนฯ ซิ ตี้สมควรอย่างยิ่งที่จะคว้าแชมป์ เพราะพวกเขาเหนือกว่าทั้งรูปเกม และสกอร์  | https://ohozaa.com