เป็นปัญหา คนเบันเทิงประเทศจีนรายปัจจุบันที่ศึกษาค้นพบว่า “เลี่ยงภาษี” เป็นข่าวใหญ่เมื่อต้นอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเป็นเติ้งหลุนดาราประเทศจีนชื่อดัง

เป็นปัญหา ซึ่งเขาโดนตรวจด้วยเทคโนโลยีบิ๊กดาต้า  ภายหลังจากนี้บทกำหนดโทษที่เขาจะได้รับเป็นอย่างไร ติดตามไปพร้อมได้จากเนื้อหานี้ ตอนต้นอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา มีข่าวด่วนจาก “แวดวงวงการบันเทิงจีน” ที่กึกก้องไปทั่วทั้งยังประเทศจีนแล้วก็ต่างแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุ๊ปคนที่ชอบพอดาราประเทศจีน โดยชื่อของ เติ้งหลุนดาราประเทศจีนโด่งดัง ผู้ฝากผลงานสร้างชื่อไว้เยอะแยะรวมถึง มธุรสหวานล้ำ ผลงานทางเน็ตฟลิกซ์ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับนานาชาติ

เป็นหนึ่งในชื่อที่ได้รับการเอ๋ยถึงเยอะที่สุด แม้กระนั้นครั้งนี้ไม่ใช่เอ่ยถึงผลงานของเขา กลับแปลงเป็นกรณีดาราแล้วก็คนที่ใคร ๆ ก็รู้จักรายปัจจุบันที่ถูกลงโทษฐาน “เลี่ยงภาษี” ในประเทศจีน ซึ่งในกรณีของเติ้งหลุน เขาโดนตรวจค้นการหลบหลีกภาษีด้วยเทคโนโลยีบิ๊กดาต้า หรือพินิจพิจารณาข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาล โดยสรรพากรมหานครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งก่อนหน้าที่จะโดนลงทัณฑ์ ได้มีการแจ้งเตือนจากทางสรรพากรเซี่ยงไฮ้แล้ว เพราะเหตุว่าบิ๊กดาต้า ตรวจค้นการกระทำที่บางทีอาจนำมาซึ่งการหลีกเลี่ยงภาษีได้

อย่างกับในกรณีของหวงเวย แม่ค้าออนไลน์จีนมีชื่อเสียง ที่โดนปรับเป็นเงิน 1,341 ล้านหยวน (ราว 6,500 ล้านบาท) ข้างหลังสรรพากรเมืองหังโจว เขตเจ้อเจียง บอกว่า มีการเลี่ยงภาษี โดยใช้เทคโนโลยีบิ๊กดาต้า

จากการเปิดเผยออกมาของทางการจีน กล่าวว่า เติ้งหลุนเลี่ยงภาษี 47.66 ล้านหยวน

โดยเขาจ่ายภาษีน้อยกว่าที่ควรเป็น โน่นเป็น จ่ายน้อยกว่า 13.99 ล้านหยวน ระหว่างปี 2019-2020 จากการเลี่ยงหลีกภาษีของศิลปินชายหนุ่มจีนผู้นี้ ทางสรรพากรจีน มีโทษตัดสินที่ออกมาชัดแจ้งเป็น ปรับ 106ล้านหยวน ซึ่งหากพวกเรามองจากกรณีของศิลปินและก็คนมีชื่อเสียงประเทศจีนผู้อื่นที่เคยได้รับการลงทัณฑ์ในเคสการหลบหลีกภาษีซึ่งจีนนับว่า เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่หมู่ชน การลงอาญาก็เลยไม่ใช่แค่เรียกตัวบทข้อบังคับ

แม้กระนั้นจะมีข้อบัญญัติโทษจากหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสาขาอาชีพของบุคคลนั้น รวมทั้ง “ข้อบัญญัติโทษทางด้านสังคม” ที่จำเป็นต้องสารภาพว่า รุนแรงกว่าโทษโดยชอบด้วยกฎหมายมากมายทีเดียว

“อ้ายจง” ก็เลยขอสรุปข้อบัญญัติโทษที่ เติ้งหลุนรวมถึงศิลปินคนมีชื่อเสียงคนอื่นของจีน ที่บางทีอาจจำต้องได้รับ แม้ทำผิดฐาน “เลี่ยงภาษี” ดังต่อไปนี้

เป็นปัญหา1. แบน และก็ขัดขวางการเข้าถึงรายละเอียดบนโลกอินเตอร์เน็ต ที่เกี่ยวพันกับศิลปินคนมีชื่อเสียงที่กระทำผิด – ในข้อนี้ เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของ “มาตรการชิงหล่าง” กวาดล้างเนื้อหาบนโลกอินเตอร์เน็ต ที่หน่วยงานไซเบอร์จีนได้ทำการให้มองเห็นแบบสิ่งที่เป็นรูปธรรม ทำจริง จัดแจงจริง ตั้งแต่กลางปี 2564 เป็นต้นมา มีเหล่าคนมีชื่อเสียงได้รับผลพวงจากทำการดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นมาแล้วคนจำนวนไม่น้อย

อีกทั้ง จ้าว เวย, จ้าว ลี่อิง รวมทั้ง เจิ้ง ส่วง ที่บัญชีบนโลกอินเตอร์เน็ตของพวกเขาต่างโดนหยุดแล้วก็ลบข้อมูลออกไป ด้วยเหตุผลดังกล่าว เมื่อกำเนิดข่าวสารเติ้งหลุน บัญชีส่วนตัวของเติ้งบนเวย์ปั๋ว แล้วก็โต่วอิน (ติ๊กต็อกเวอร์ชั่นจีน) แล้วก็บัญชีของสตูดิโอของเขาขณะนี้ถูกหยุดการใช้แรงงานทันทีอย่างไม่ต้องสนเท่ห์ใจ

2. โดนผู้สนับสนุน พาร์ทเนอร์การทำงาน ถอนความร่วมแรงร่วมมือ – นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการลงอาญาฐานรากที่จะเกิดขึ้นแทบจะในทันที ข้างหลังมีข่าวสารออกมาจากสื่อจีนเกี่ยวกับความผิดพลาดของศิลปินคนที่ใคร ๆ ก็รู้จักพวกนั้น โดยเฉพาะถ้าเกิดเป็นกระแสทางโลกออนไลน์ในวงกว้าง ยิ่งใจความสำคัญข่าวสารการเลี่ยงหลีกภาษีของเติ้ง เป็นหัวข้อยอดนิยมสูงสุดในเวย์ปั๋วในวันที่มีข่าวสารออกมา ด้วยยอดอ่านโพสต์ที่มากถึง 460 ล้านวิว ภายในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 30 นาทีแค่นั้น

และก็ข้างหลังเป็นกระแส บริษัทรวมทั้งแบรนด์ต่าง ๆ ที่ร่วมงานกับเติ้ง ก็ประกาศยุติข้อตกลงทันการ อาทิเช่น เทคโนโลยีวิโอมิ รวมทั้งลอรีอัล แม้กระทั้งบนแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ โยวคู่ และก็ อ้ายฉีอี้ ก็มีการลบชื่อของเติ้งหลุน ออกไปจากคำพรรณนาหนังรวมทั้งซีรีส์ที่เขาแสดง

3. โดนแบนจากแวดวงสนุกสนาน หน้าสื่อ อีกทั้งออฟไลน์รวมทั้งออนไลน์- กระแสศิลปินคนที่ใคร ๆ ก็รู้จักของจีน ควรเป็นคนดีรวมทั้งเป็นต้นแบบที่ดีตามแบบฉบับที่การจีนอยาก ถูกปลุกขึ้น นับจากกำเนิดกรณีช็อกแวดวงสนุกสนานจีน ในปี 2561 หรือราว 4 ปีให้หลัง เมื่อ ฟ่านปิงปิง ซึ่งพวกเราบางทีอาจเรียกคุณว่าเป็นเจ้าฟ้าหญิงแวดวงเพลิดเพลินจีนก็ว่าได้ เนื่องจากว่ามีชื่อเสียงแบบผลักไม่อยู่ แม้กระนั้นก็จำเป็นต้องเงียบหายออกมาจากแวดวงสนุกสนานจีนไปครู่หนึ่งใหญ่ ๆ

ด้วยหลักสำคัญ เลี่ยงภาษี ทำความตกลงรับงาน “หยินหยาง” ใส่รายได้ในข้อตกลงน้อยกว่าที่ได้รับจริง โดยคุณหายหน้าหายตาไปพร้อมด้วยคะแนนความรับผิดชอบต่อสังคม “0” คะแนน จากการให้แต้มโดยสถาบันวิจัยด้านสังคมแห่งชาติจีน รวมทั้งมหาวิทยาลัย ม.ครุศาสตร์ปักกิ่ง ซึ่งได้รับการตีข่าวสารโดยสื่อหลักสื่อรองทั่วจีน กรณีของ ฟ่านปิงปิง จัดว่าโชคดีอย่างมากมาย เพราะว่าภายหลังที่ออกมาขออภัย แล้วก็ชดเชยค่าเสียหายต่าง ๆ ตามบทกำหนดโทษของทางการจีน วิเคราะห์บอล

เป็นปัญหา

ฟ่านปิงปิง ยังมีพื้นที่อยู่ในแวดวงรื่นเริงจีน แม้กระนั้นยังมีอีกคนไม่ใช่น้อยที่มิได้โชคดีเช่นเดียวกับฟ่านปิงปิง อาทิเช่น เจิ้ง ส่วง รวมทั้งหวงเวย (แม่ค้าออนไลน์คนที่ใคร ๆ ก็รู้จัก) ที่โดนประกาศแบนจากการปรากฎตัวบนสื่อจีน ทั้งยังออฟไลน์รวมทั้งออนไลน์ เรียกว่า ไม่ให้มีพื้นที่อีกทั้งการแสดงในแวดวงสำราญใจธรรมดาและก็การเป็นคนที่ใคร ๆ ก็รู้จักบนออนไลน์ด้วย อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าพินิจพิจารณาโทนการนำเสนอข่าวสาร

เติ้งหลุนโดยสื่อปากเสียงทางการจีนอย่างพบว่า เป็นโทนในลักษณะมิได้เป็นแง่ลบต่อตัวเติ้งหลุน ทั้งผอง โดยยิ่งไปกว่านั้นการนำเสนอว่า เติ้งหลุนมีความแอคทีฟ เร่งรีบสำหรับเพื่อการร่วมมือกับทางการ และก็พร้อมที่จะรับผิดชอบจ่ายภาษีที่เขาเลี่ยงทันทีทันใด ซึ่งนี่ทำให้ในเวลานี้ยังมิได้มีการประกาศแบนจากทางหน่วยงานรวมทั้งชมรมเบิกบาน รวมทั้งอื่น ๆ ที่เกี่ยวพันอย่างแจ่มแจ้ง

4. กระแสสังคมบีบคั้น – ตามเดิมแล้ว แม้เป็นความผิดตามข้อบังคับอันแจ่มกระจ่างของคนมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเลี่ยงภาษี แล้วก็ข้อผิดพลาดเรื่องอื่นชอบเป็นกระแสสังคมต่อเนื่องกันยาวนานหลายวัน หากไปดูความเห็น จะมองเห็นถึงข้อคิดเห็นแล้วก็โพสต์ในแง่ลบเยอะแยะ แม้กระนั้นสำหรับของ เติ้งหลุนเท่าที่อ่านความนึกคิดบนโลกอินเตอร์เน็ตจีน ดังเช่นว่า บนเวย์ปั๋ว ยังมีโพสต์ให้กำลังใจและก็เขียนในทางที่ดี ซึ่งบางครั้งก็อาจจะเป็นด้วยเหตุว่าการออกมายอมรับไม่ถูกและก็ขออภัยที่ออกจะไวของเติ้งหลุน

รวมทั้งยังไม่มีแถลงประกาศแบนหรือการลงอาญาอันอื่นจากทางประเทศจีนในเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกกระแสสังคมบีบคั้นอย่างมากถ่วง ผลพวงเฉพาะหน้าที่งานการในแง่ลบ บางทีอาจไม่ใช่แค่ในอาชีพที่ทำเป็นหลัก แต่ว่าบางทีอาจรวมถึงธุรกิจที่ทำนอกจากในแวดวงสนุกสนาน ด้วยเหตุนี้ก็เลยมีข่าวสารเกี่ยวกับ เติ้งหลุนออกมาว่า ร้านค้าหม้อไฟจีน ห้องดับเพลิง ที่ถูกกล่าวว่าเป็นธุรกิจของเติ้งหลุน สาขาที่เซี่ยงไฮ้ มีการปลดป้ายร้านค้าออก ก็เลยทำให้มีคำถามว่าบางทีอาจเกี่ยวเนื่องกับการเลี่ยงหลีกภาษีที่เกิดขึ้น

ตอนหลังถูกวิจารณ์ในออนไลน์ ทางบุคลากรของร้านค้าก็เลยออกมาอธิบายว่า คือเรื่องธรรดาของร้านค้าที่ทำงานแปลงป้ายทุก 3 เดือน แล้วก็ที่ปิดชั่วครั้งคราว 3 วัน เนื่องจากผลจากมาตรการคุมการระบาดโควิด-19