ในความทุ่มเท เบนจามิน เดวิส, โจนาธาน เข็มดี และก็ โอเว่น ชาร์ลี บัวพิศ ทั้งหมดทั้งปวงเป็นนักฟุตบอลลูกครึ่งชนชาติไทย

ในความทุ่มเท ที่ถูกเรียกติดกองทัพช้างศึกยู-23 โดยไม่มีผู้ใดเล่นบอล ในประเทศไทยเลย แล้วก็นี่บางทีอาจเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ จุดเกิดเหตุการณ์อย่างงี้ขึ้น การก้าวเข้ามาสู่รั้วกลุ่มชาติไทยตั้งแต่รุ่นเยาวชน

ย่อมบอกให้เห็นถึงจุดสำคัญของนักฟุตบอลลูกครึ่ง ต่อแวดวงบอลบ้านพวกเรา ซึ่งมิได้จำกัดอยู่เพียงแค่ เมืองไทยแค่นั้น แม้กระนั้นการปรากฏรูปแบบนี้ ยังเกิดขึ้นในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงพวกเราอีกด้วย

ขอมาเล่าจุดสำคัญของนักฟุตบอลลูกครึ่ง ต่อแวดวงบอลอาเซียน ที่มีอีกทั้งผลตอบแทน ที่ได้รับ ในระดับกลุ่มชาติแล้วก็ สมาพันธ์ รวมทั้งกระแสผ่านหน้าสื่อตั้งแต่ยังไม่ทันได้ลงสู่สนาม เสริมเข้มแข็งบอลกลุ่มชาติ

จุดสำคัญแรกที่นักฟุตบอลลูกครึ่งมี ต่อชาติอาเซียนคงจะหนีไม่พ้น “การผลิตการบรรลุเป้าหมาย ในบอลระดับประเทศ” เนื่องจากอย่าง ที่พวกเราเข้าใจกันอยู่ว่า นักฟุตบอลลูกครึ่งโดยมากยอมทิ้งถิ่นกำเนิด ในยุโรป

เพื่อมาลงเล่นบอลบนแผ่นดิน ที่พวกเขาแทบไม่เคยรู้ เพื่อจังหวะ สำหรับในการติดกลุ่มชาติทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่กลุ่มบอล จากชาติอาเซียน มีความต้องการด้วยกันเป็น การก้าวไปสู่การประลอง บอลโลก แม้กระนั้นกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ กลุ่มบอลจากชาติอาเซียนจำเป็นต้องต่อสู้ มหาอำนาจในทวีปเอเชีย

รวมทั้งเปิดศึกคุ้นเคยอย่างเข้มข้นข้าง ในภูมิภาคซะก่อน การจะมานั่งคิดแผนระยะยาว 20 ปีก็เลยบางที อาจเป็นการรอนานเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับแฟนบอลใจร้อน ที่อาเซียนที่ดักดาน กับความฝันนี้มานานมาก วิเคราะห์บอล

ทางลัดสำหรับในการสร้างการบรรลุผล บนเวทีการแข่งขันชิงชัยบอลระดับโลก ในความทุ่มเท

ก็เลยแปลงเป็นการดึงนักฟุตบอลลูกครึ่ง จากประเทศตะวันตกเข้ามา ซึ่งเหตุผล สำหรับในการฝาก ความคาดหมายไว้ กับนักฟุตบอลพวกนี้นั้น ไม่สลับซับซ้อน เนื่องจากว่านักฟุตบอล ที่ฝึกซ้อมและก็ดำรงชีวิต ในโลกบอลขั้นสูงกว่า ในความทุ่มเท

ย่อมมีมาตรฐาน การเล่นมากยิ่งกว่านักฟุตบอล ที่ดำเนินชีวิตในภูมิภาคอาเซียนโดยธรรมชาติ ยกตัวอย่าง ชาริล ชัปปุย ที่เคยติดกลุ่มชาติ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชุดเล็ก, มานูเอล ทอม เบียร์สดห ที่เคยเป็นผู้เล่นเยาวชน ของสตุ๊ตการ์ท

หรือ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ที่เคยเซ็นสัญญาเป็นผู้เฝ้าประตูสำรอง ของมิดท์จิลแลนด์ เพียงเท่านี้ก็คง จะพอเพียงจะเห็นดีกรีของนักฟุตบอลลูกครึ่ง แล้วว่า พวกเขาเคยอยู่ท่ามกลาง ระบบการฝึกฝน ในความทุ่มเท แล้วก็ระบบการเล่น ที่มีมาตรฐานสูง จนกระทั่งนักฟุตบอลในอาเซียนได้แต่ว่าฝันถึง

การเข้ามาของนักฟุตบอลลูกครึ่ง ก็เลยแปลงเป็นเทรนด์ ยอดนิยมจากหลายชาติ ในอาเซียน ซึ่งมีความต้องการจะปรับปรุงผลงาน สำหรับเพื่อการแข่งระดับประเทศ เห็นได้ชัดจาก ในความทุ่มเท กลุ่มชาติไทย โดยในตอนทศวรรษก่อนหน้านี้ (2010s) มีนักเตะลูกครึ่งก้าวขึ้น มาติดกลุ่มชาติไทย เป็นปริมาณสูง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งยังกับ ชุดใหญ่ รวมทั้ง ชุดเยาวชน จะยังคงดีขึ้น

ส่วนอีกหนึ่งชาติที่เลือกใช้นักฟุตบอลลูกครึ่ง เป็นทางลัดสำหรับเพื่อการสร้างการบรรลุผล บนเวทีบอลกลุ่มชาติ ในความทุ่มเท

ตัวอย่างเช่น ประเทศฟิลิปปินส์ โดยในศึกเอเชียน คัพ 2019 มีการนำนักฟุตบอลลูกครึ่งประเทศฟิลิปปินส์-เยอรมัน เข้ามาติดกลุ่มชาติทั้งสิ้น 6 คน ดังเช่นว่า สเตฟาน ชร็อค สมัยก่อนนักฟุตบอลไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต, จอห์น-แพทริค สเตราส์ สมัยก่อนนักฟุตบอลเยาวชน ของเครื่องปรับอากาศเบ ไลป์ซิกข์, เควิน อินเกรโซ สมัยก่อนนักฟุตบอลเยาวชนของฮัมบูร์ก, สองลูกพี่ลูกน้อง ไมค์-มานูเอล อ็อตต์ รวมทั้ง แพทริค ไรเชลท์

การดึงนักฟุตบอลลูกครึ่งล็อตใหญ่ของประเทศฟิลิปปินส์รอบนี้ ไม่บางทีอาจช่วยทำให้พวกเขาหาแต้มแรก สำหรับการแข่งบอลชิงชนะเลิศ แห่งชาติทวีปเอเชียมาได้ แต่ว่าขั้นต่ำมันช่วยแสดงความทะยานอยากของพวกเขากับการประลองบอลระดับโลก

และก็แสดงถึงความรู้ความเข้าใจของกลุ่ม ซึ่งสามารถต่อสู้กับ ประเทศเกาหลีใต้ ได้อย่างใกล้เคียง แถมนักฟุตบอลเพียงผู้เดียวที่ทำประตูได้ ในทัวร์นาเมนต์ก็เป็นนักฟุตบอลลูกครึ่ง อย่าง สเตฟาน ชร็อค

รวมทั้งถ้าหากย้อนกลับไปในปี 2010 ประเทศฟิลิปปินส์ จัดแจงดึงลูกครึ่งมาเสริมกลุ่มมากเพื่อเป็นทางลัดให้กับแวดวงบอลของพวกเขาที่ผลงานย่ำแย่ เป็นหมูสนามในบริเวณอาเซียน แล้วช่วยทำให้ประเทศฟิลิปปินส์สร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบรองชนะเลิศ บอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ได้เป็นครั้งแรก

การเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของบอลกลุ่มชาติในอาเซียนโดยนักฟุตบอลลูกครึ่ง ก็เลยเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะไม่ยอมรับได้ เนื่องจากแม้กระทั้งกลุ่มชาติไทยก็มีการใช้บริการนักฟุตบอลลูกครึ่งในสีเสื้อช้างศึกอยู่ไม้น้อย โดยนักฟุตบอลลูกครึ่งที่ถูกเรียกติดกลุ่มชาติไทยใน 12 เดือนที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น ทริสตอง โด, มานูเอล ทอม เบียร์สดห, เอ้อร์เนสโต ภูเขาไม่ภา รวมทั้ง ฟิลิป โรลเลอร์

ที่่ผ่านมานักเตะลูกครึ่งบางบุคคลก็ทำผลงานสอบ ได้บนเวทีกลุ่มชาติ รวมทั้งเปลี่ยนเป็นส่วนเติมเต็ม ที่สำคัญของ “ช้างศึก” ทั้งยัง ชาริล ชัปฟูส์ ที่มีส่วนเชื่อมเกมให้ไทยคว้าชัยชนะเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014, มานูเอล ทอม ที่ยืนเป็นปราการหลังคนสำคัญ ในสมัยของ อาคิระ นิชิโนะ

หรือแม้กระทั้ง โจนาธาน เข็มดี ที่ได้รับเสียงยกย่อง ในความทุ่มเท ในศึกบอลยู-23 ชิงชนะเลิศทวีปเอเชีย รอบเลือกสรร 2022 กระทั่งเป็นสาระสำคัญให้กลุ่มไทยเสียเพียงแค่ 1 ประตูแค่นั้น